SKIN ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 44 ล้านหุ้น ระดมทุนเข้า mai นำเงินขยายธุรกิจ

“สกิน ลาบอราทอรี" หรือ SKIN ผู้คิดค้นพัฒนาจ้างผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ยื่นไฟลิ่งขายหุ้นไอพีโอจำนวน 44 ล้านหุ้น ระดมทุนเข้าตลาด mai ใช้เป็นทุนหมุนเวียน โดยมี APM เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


บริษัท สกิน ลาบอราทอรี จำกัด (มหาชน) หรือ SKIN เปิดเผยว่า ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนหุ้นที่เสนอขายไม่เกิน 44,000,000 หุ้น คิดเป็น 30.55% ของจำนวนหุ้นสามัญทีออกและเรียกชำระแล้วทังหมดภายหลัง IPO และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมี บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน วัตถุประสงค์การใช้เงินจากการระดมทุนเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

สำหรับ SKIN ประกอบธุรกิจคิดค้น พัฒนา จ้างผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skin Care) โดยบริษัทจะคิดค้น พัฒนาสูตรร่วมกับโรงงานผู้ผลิตที่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพในการผลิตเครื่องสำอาง มีสภาพแวดล้อมที่ดี มีเครื่องจักรทันสมัย และมีประสบการณ์ในการรับจ้างผลิต และนำมาจำหน่ายผ่านช่องทางจำหน่ายที่หลากหลาย

โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ทีบริษัทคิดค้น พัฒนา จ้างผลิตและจำหน่าย ประกอบด้วย 1) ผลิตภัณฑ์เซรั่มบำรุงผิวหน้า 2) ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด 3) ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า 4) ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้า และ 5) ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้แก่ สเปรย์ฉีดลดสิวตามร่างกาย

กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน อายุ 18-35 ปีที่ให้ความสนใจในการดูแลตัวเอง เป็นผู้ติดตามข่าวสารด้านความงามอยู่เสมอ และมีความพิถีพิถันในการดูแลผิว โดยจำหน่ายผ่านทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ผ่านทางร้าน Watsons เป็นรายแรก จากนั้นบริษัทขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านทางช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าได้โดยง่าย ได้แก่ Shopee Lazada และ Tiktok shop จากกระแสตอบรับสินค้าที่ดีมาโดยตลอดทางบริษัทจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบซองและขยายช่องทางจำหน่าย เช่น การจำหน่ายผ่านทาง 7-11 และ CJ Express เป็นต้น

ปัจจุบันบริษัทมีการทำตลาดฝาน 2 แบรนด์ คือ SKINSISTA และ Dermie จำหน่ายผ่านหลายช่องทาง ได้แก่ 1) ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) เริ่มจากร้าน Watsons และขยายไปยังร้านเซเว่น-อิเลฟเว่น 2) ร้านค้าทั่วไป (General Trade) 3) ช่องทางออนไลน์ (E-Commerce) ผ่าน Shopee Lazada และ Tiktok shop

ผลการดำเนินงานในปี 64-66 บริษัทมีรายได้จากการขาย 315.54 ล้านบาท 282.12 ล้านบาท และ 271.80 ล้านบาท ตามลำดับ งวด 6 เดือนแรกของปี 67 รายได้จากการขาย 123 ล้านบาท เทียบกับงวด 6 เดือนแรกของปี 66 อยู่ที่ 140.16 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 23.40 ล้านบาท 11.86 ล้านบาท และ 17.20 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 7.39% 4.19% และ 6.31% สำหรับงวด 6 เดือนแรกปี 67 มีกำไรสุทธิ 3.85 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 3.11%

ณ วันที่ 1 ส.ค.67 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 72,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 144,000,000 หุ้น  มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และมีทุนชำระแล้ว 50,000,000 บาท โครงสร้างผู้ถือหุ้นมี นายชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา ถือหุ้น 35,000,000 หุ้น คิดเป็น 35% ภายหลัง IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 24.31% นางสาวณัฐพร พงษ์ชาญชวลิต 35,000,000 หุ้น คิดเป็น 35% จะลดเหลือ 24.31% และ นายธนชัย ถนอมทรัพย์ 30,000,000 หุ้น คิดเป็น 30% จะลดเหลือ 20.83%

ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดนโยบายจ่ายเงินปันผลในแต่ละปีในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ หลังจากหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนดและตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับบริษัท

Back to top button