“ชัยยศ” มอง SET พักตัว ชู 2 หุ้น จ่อรับนโยบาย “เงินดิจิทัลวอลเล็ต-บิ๊กโปรเจกต์”
“ชัยยศ” มอง SET พักตัว หลังทะยานเกือบ 100 จุด แนะ 2 หุ้นเด่น CPALL-WHA รับอานิสงส์นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท พ่วงบิ๊กโปรเจกต์ หลังจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยฝ่ายผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จํากัด (มหาชน) หรือ KSS เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (28 ส.ค. 67) ว่า แนวโน้ม SET ช่วงนี้โมเมนตัมระยะกลาง-ยาวยังดูดี เนื่องจากตัวเลขส่งออกเดือนก.ค.ออกมาโตดีกว่าคาด รวมทั้งตัวเลข GDP ในช่วงไตรมาส 2/67 โตดีกว่าคาด อีกทั้งในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้จะมีเรื่องของแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เข้ามาน่าจะช่วยให้ GDP ขยับตัวขึ้นอีก
ดังนั้นทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงระยะกลางยาวยังดูดี เพียงแต่ว่าในช่วง 10 วันทำการที่ผ่านมาตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมาเกือบ 100 ชุด ดังนั้นทำให้มีภาพของการพักตัวจึงถือเป็นเรื่องปกติ และหากการย่อตัวในรอบนี้ไม่หลุดระดับ 1,340 จุด มองว่าทิศทางตลาดไม่มีอะไรน่ากังวล
ส่วนกรณี MSCI Rebalance รอบเดือนส.ค.มีผล 30 ส.ค. (ราคาปิด) มองว่ามีผลกับตลาดแต่ไม่ได้กระทบกับซิติเมนในช่วงนี้มากนัก เพราะจะเห็นว่าฟันด์โฟลว์ช่วงนี้เข้ามาต่อเนื่อง อีกทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่า เชื่อว่าฟันด์โฟลว์จะคงยังอยู่ เพียงแต่ว่าในเรื่องของ MSCI เป็นเรื่องของ One time และหุ้นรายตัวซึ่งจะจะการขยับเข้าและออก และเป็นลักษณะเปลี่ยนจาก MSCI Global มาเป็น Small cap และอาจมีการลดน้ำหนักลงทุนบ้างแต่ไม่ได้เยอะมาก
ด้านประเด็นการเมืองคาดว่าศุกร์นี้จะเห็นรายชื่อครม.ชุดใหม่ออกมาชัดเจน มองว่านักลงทุนเริ่มเชื่อว่าไทยจะมีบิ๊กโปรเจกต์ใหม่ๆเข้ามา อาทิ Entertainment Complex,ลงทุน Data Center ตามที่ทาง “ทักษิณ” โชว์วิสัยทัศน์เอาไว้ ดังนั้นเชื่อว่าการได้ครม.เข้ามาช่วยสานต่องานเพื่อให้ภาพใหญ่ดำเนินไปได้ตามแผน
ดังนั้นกลยุทธ์ในการลงทุนในวันนี้เน้นรายตัว คือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ซึ่งคาดหวัง Digital Wallet ซึ่งเชื่อว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาในกลุ่มเปราะบางราว 1.5 แสนล้านบาท เชื่อว่าจะได้ประโยชน์มากสุดแนะนำซื้อพื้นฐาน 84 บาท
อีกตัวบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ภาพใหญ่มีโปรเจกต์ต่างๆเข้ามาเพราะฉะนั้นในส่วนของกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมการลงทุนโดยตรงในช่วง 2-3 ปียังบูม เนื่องจากมีธุรกิจครบวงจรไม่ว่าจะเป็นนิคมฯ ไฟฟ้าแนะนำซื้อราคาพื้นฐาน 6 บาท
ส่วนประเด็นนายพิชัย ชุณหวชิร รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมองคาดหวังว่าจะเห็นดัชนีฯกลับขึ้นไปยืนที่ระดับ 1,800 จุด และมีมาร์เก็ตแคปแตะ 20 ล้านล้านบาท มองว่าจุดการที่จะทำให้ดัชนีไปถึงจะมาจากสูตรสมาการของ GDP ซึ่งจะเน้นไปที่การบริโภคภายในเป็นอันดับแรกนั้นคือกลุ่มค้าปลีกซึ่งหลายๆตัวราคายังลงลึกได้แก่ GLOBAL,DOHOME,CPALL,CPAXT สามารถเลือกสะสม รองลงมากลุ่มนิคมฯได้แก่ AMATA,WHA และกลุ่มรับเหมาซึ่งโครงการขนาดใหญ่กำลังจะเข้ามาดังนั้นแนะสะสม STEC,CK เป็นต้น