“กรภัทร” ชี้แนวรับสำคัญ 1,350 จุด แนะ 5 หุ้น “บลูชิพ” ราคาแลกการ์ด

“กรภัทร” ชี้แนวรับสำคัญ 1,350 จุด แนะ 5 หุ้น CPALL- CPAXT- PTT- AOT- KTB รองบประมาณเดือนกันยายน


นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS กล่าวในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (29 ส.ค.67) ว่า งาน Thailand Focus 2024 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 18 ภายใต้แนวคิด “Adapting to a Changing World” ในวันที่ 28 ส.ค.67 โดยมีหุ้นไทยที่ไปร่วมโรดโชว์ ให้ข้อมูลกับนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศ จำนวน 113 บริษัทชั้นนำ ซึ่งนักลงทุนสถาบันมีความคาดหวังมากกว่าปีก่อนๆ ต่อภาพรวมของตัวตลาดทุน, การขับเคลื่อนนโยบายของภาครัฐ, ทิศทางนโยบายการเงิน และประเด็นหลักของอุตสาหกรรม New S-curve ตาม Mega Trendy อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเร่งพัฒนาและต่อยอดการลงทุน “Data Center” และเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา

ประเด็นสำคัญในงาน Thailand Focus 2024 ของการนำเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท คือ การนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ให้สอดคล้องกับธุรกิจค้าปลีก อาทิ การเลือกโลเคชั่นในการเปิดสาขาใหม่ บางสาขามีการเปิดใกล้โรงเรียน, โรงพยาบาล หรือ ออฟฟิศ ทำให้การเลือกสรรการวางโปรดักส์บนเชลฟ์นั้น จะต้องตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าตามโลเคชั่นแตกต่างกันออกไป โดยจะใช้ตัวข้อมูล “Data Analysis” เข้ามาประมวลทิศทางรายได้และแนวโน้มการเติบของธุรกิจในอนาคต

สำหรับตลาดหุ้นไทย ซึ่งมีประเด็นที่น่าจับตามองวันพรุ่งนี้ คือ การทำ “MSCI Rebalance” คิดจากราคาหุ้นปิดวันที่ 30 ส.ค.  จะมีการลดน้ำหนักหุ้นไทย และลดน้ำหนักหุ้นตลาดอาเซียน  มองว่าตลาดจะมีการแกว่งตัวรอประเด็นดังกล่าวแต่คงพักไม่มาก ซึ่งมีโอกาสจะเห็นการปรับสถานะของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะหุ้นที่ถูกถอดออกจาก MSCI Global Standardรอบนี้ประกอบด้วย  GPSC, AWC, EA, และ IVL  โดยประเมินตัวเลขในการปรับลดน้ำหนักราว 240-250 ล้านเหรียญฯ ซึ่งถือว่าลดลงมาระดับหนึ่งจากตัวเลขที่ประเมินรอบก่อนประมาณเกือบ 300 ล้านเหรียญฯ อย่างไรก็ตามหุ้น GPSC, AWC และ EA เป็นหุ้นที่กลุ่มนักลงทุนสถาบันมองว่าจะหาจังหวะเก็บเข้าสะสม เนื่องจากหุ้นได้ตอบรับปัจจัยลบดังกล่าวมามากแล้ว

ขณะเดียวกัน ด้านการเมือง มองว่านักลงทุนควรจับตามอง การจัดตั้ง ครม. หากเป็นไปตามที่คลาดคาดหวัง ดังนั้น งบประมาณสามารถเร่งมือจ่ายได้ทันที รวมถึงเม็ดเงินกระตุ้นการบริโภคกลุ่มเปราะบาง งบประมาณ 1.45 แสนล้านบาท ที่จะออกมาในเดือนกันยายนรวมถึงนโยบายกระทรวงและโปรเจ็กต์ต่างๆ ของรัฐบาลชุดนี้ พร้อมที่จะขับเคลื่อนตามแผนนโยบายคาดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะเร่งฟื้นตัวขึ้นในช่วงปลายปี

ดังนั้นจึงมองว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้และวันพรุ่งนี้ จะแกว่งตัวในกรอบแนวรับประมาณ 1,350-1,345 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ประมาณ 1,373-1,380 จุด

สำหรับการลงทุนแนะนำเก็งกำไรหุ้นที่ราคายังขึ้นไม่มาก โดยรองบประมาณในเดือนกันยายนนี้ ได้แก่  หุ้นค้าปลีก บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT, บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ  AOT, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เป็น 3 หุ้นที่มองว่ามีโอกาส Outperform ขึ้นไปอีก เป็นจุดที่มองว่าตลาดหุ้นไทยมี Big CAP ขนาดใหญ่ประคองต่อเนื่อง

Back to top button