เปิด 20 อันดับหุ้นถูก “Cover-Short” สูงสุด ณ 29 ส.ค.67
ข้อมูลสิ้นสุด 29 ส.ค.67 TTB มีปริมาณชอร์ตคงค้างเหลือมากสุด 447 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.46% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ด้าน HMPRO ถูก Short Sales สูงสุดจำนวน 34 ล้านบาท ขณะที่ AWC มีมูลค่าการปิดสถานะชอร์ตด้วยการซื้อคืนสูงสุดจำนวน 63 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานอ้างอิงการเปิดเผยข้อมูลของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เกี่ยวกับหลักทรัพย์ที่ยังคงสถานะการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน (Outstanding Short Positions) ณ วันที่ 29 ส.ค.67 พบว่ามีหลักทรัพย์ที่ยังคงสถานะการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน จำนวนทั้งหมด 393 หลักทรัพย์ โดยหุ้นที่คงสถานะขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืนสูงสุด 5 อันดับแรก (รวมบัญชี NVDR) ประกอบด้วย
1.ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB จำนวน 447,606,000 หุ้น หรือคิดเป็น 0.46% ของหุ้นที่ชำระแล้ว
2.บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC จำนวน 296,792,511 หุ้น หรือคิดเป็น 0.93% ของหุ้นที่ชำระแล้ว
3.บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM จำนวน 209,625,496 หุ้น หรือคิดเป็น 1.37% ของหุ้นที่ชำระแล้ว
4.บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC จำนวน 192,620,340 หุ้น หรือคิดเป็น 0.94% ของหุ้นที่ชำระแล้ว
5.บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU จำนวน 149,597,066 หุ้น หรือคิดเป็น 1.49% ของหุ้นที่ชำระแล้ว
ทั้งนี้ จาก 20 อันดับในตารางดังกล่าว พบ 4 หุ้นที่ถูก Cover Short สูงสุดเกิน 1 ล้านหุ้น ได้แก่
1.AWC จำนวน 18,078,700 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 3.50 บาท คิดเป็นมูลค่า 63,275,450 ล้านบาท
2.บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI จำนวน 13,225,100 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 1.68 บาท คิดเป็นมูลค่า 22,218,168 ล้านบาท
3.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT จำนวน 2,775,800.00 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 33.25 บาท คิดเป็นมูลค่า 50,719,550 ล้านบาท
4.บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH จำนวน 1,000,600 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 5.65 บาท คิดเป็นมูลค่า 5,653,390 ล้านบาท
ขณะเดียวกันพบ 4 หุ้นถูก Short Sales เพิ่มขึ้นสูงเกิน 2 ล้านหุ้น ได้แก่
1.บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO จำนวน 3,766,700 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 9.25 บาท คิดเป็นมูลค่า 34,841,975 ล้านบาท
2.บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA จำนวน 2,411,700 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 5.35 บาท คิดเป็นมูลค่า 12,902,595 ล้านบาท
3.บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL จำนวน 2,391,600 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 18.00 บาท คิดเป็นมูลค่า 43,048,800 ล้านบาท
4.บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI จำนวน 2,009,300 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 2.40 บาท คิดเป็นมูลค่า 4,822,320 ล้านบาท