WTI ปิดลบ 3% หลัง “โอเปกพลัส” เล็งเพิ่มการผลิต ต.ค.นี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปิดร่วงลง 3.11% นักลงทุนประเมินความเป็นไปได้ที่กลุ่มโอเปกพลัสจะเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนต.ค.
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ (30 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนประเมินความเป็นไปได้ที่กลุ่มโอเปกพลัสจะเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนต.ค. ขณะที่นักลงทุนมีความหวังลดลงเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ลงอย่างมากในเดือนหน้า หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 2.36 ดอลลาร์ หรือ 3.11% ปิดที่ 73.55 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยลดลง 1.70% ในรอบสัปดาห์นี้ และลดลง 3.6% ในเดือนส.ค.
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ปิดที่ 78.80 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยลดลง 0.30% ในรอบสัปดาห์นี้ และลดลง 2.40% ในเดือนส.ค.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โอเปกพลัสได้เตรียมเดินหน้าแผนการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนต.ค.
แหล่งข่าว 6 รายจากกลุ่มโอเปกเปิดเผยว่า สมาชิก 8 ชาติจากโอเปกพลัสจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันรวม 180,000 บาร์เรล/วัน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนต.ค. การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ลิเบียลดการผลิตน้ำมัน อันเนื่องจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และหนุนอุปสงค์น้ำมันในตลาด
ปัจจุบัน โอเปกพลัสปรับลดกำลังการผลิตรวม 5.86 ล้านบาร์เรล/วัน โดยมาจากการปรับลดกำลังการผลิตของสมาชิกโอเปกพลัสจำนวน 3.66 ล้านบาร์เรล/วัน และการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจของสมาชิกโอเปกพลัส 8 ชาติจำนวน 2.20 ล้านบาร์เรล/วัน
ทั้งนี้ การปรับลดกำลังการผลิตจำนวน 3.66 ล้านบาร์เรล/วันมีกำหนดสิ้นสุดลงในช่วงสิ้นปี 68
ส่วนการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจจำนวน 2.20 ล้านบาร์เรล/วันนั้น สมาชิกโอเปกพลัส 8 ชาติจะเริ่มทยอยยุติการปรับลดกำลังการผลิตในช่วง 1 ปีตั้งแต่เดือนต.ค. 67 จนถึงเดือนก.ย. 68 หรือบ่งชี้ว่าโอเปกพลัสจะเริ่มปรับเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนต.ค. 67
ด้านบริษัทน้ำมันแห่งชาติ (National Oil Corporation) ของลิเบียระบุว่า การปิดบ่อน้ำมันล่าสุดทำให้การผลิตน้ำมันรวมของประเทศลดลงประมาณ 63% อันเนื่องมาจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ
บรรดานักลงทุนประเมินข้อมูลใหม่ที่แสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนก.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยังคงอยู่ในภาวะที่แข็งแกร่งในช่วงต้นไตรมาส 3 และลดความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 0.50% ในเดือนก.ย.