ประกันสังคมสยบข่าวลือ! ยืนยันไม่ขายล้างพอร์ต BCP หลังทุนยักษ์ซาอุฯเข้าซื้อ
“กองทุนประกันสังคม” ยืนยันไม่มีแผนขายล้างพอร์ตหุ้น BCP 14% หลังมีกระแสข่าวลือทุนใหญ่จากซาอุดีอาระเบียเข้าซื้อแล้วทั้งหมดที่ราคาหุ้นละ 40 บาท ทำรายย่อยแห่เข้าเก็งกำไรคึก ขณะที่เลขาฯ สปส.เล็งปรับลดพอร์ตลงทุนตลาดทุนไทย โยกไปต่างประเทศแทน ด้านโบรกฯ ประเมินกำไร “บางจาก” ปีนี้ 1.4 หมื่นล้านบาท เติบโต 8% ราคาเป้าหมาย 46 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เกิดปัญหาขาดสภาพคล่องในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดจึงมีกระแสข่าวว่าสำนักงานประกันสังคมจะขายหุ้นบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ที่ถืออยู่ทั้งหมด 14.18% ให้กับทุนใหญ่จากประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยจนถึงขั้นระบุราคาขายที่ 40 บาทต่อหุ้น ขณะที่ราคาหุ้น BCP ปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และวันที่ 30 สิงหาคม ราคาปิดที่ 37.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.36% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 456.37 ล้านบาท
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า กองทุนประกันสังคมยังไม่มีแผนที่จะขายหุ้น BCP ที่ถืออยู่กว่า 14% และที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีใครติดต่อเข้ามาเลย ไม่รู้ว่าใครไปปล่อยข่าวลือเรื่องนี้
“ยังไม่มีแผนที่จะขายหุ้นบางจาก ไม่ได้มีใครติดต่อเข้ามา ก็มีคนโทรมาถามผม ไม่รู้ว่าใครไปปล่อยข่าวลือ สบายใจหายห่วงได้ ประกันสังคมยังถือหุ้นบางจากอยู่ 14% เหมือนเดิม”
นอกจากนี้ กองทุนประกันสังคมอยู่ระหว่างการทำแผนการลงทุนใหม่ โดยปัจจุบันมีขนาดกองทุนอยู่ที่ 2.5 ล้านล้านบาท ซึ่งมีความมั่นคงและเชื่อว่าจะไม่ล้มละลายอย่างแน่นอน ผู้ประกันตนมั่นใจได้ โดยปี 2566 ที่ผ่านมา กองทุนฯ มีกำไรจากพอร์ตการลงทุนประมาณ 59,000 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะกำไรมากกว่าเดิมอยู่ที่ 60,000 กว่าล้านบาท
“ผมไม่ยอมให้กองทุนฯ เสียหายแน่นอน เพราะต้องดูแลผู้ประกันตน ตอนนี้กองทุนฯ มีกำไรและกำลังหาช่องทางที่ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดมากกว่าเดิม” นายบุญสงค์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กองทุนประกันสังคมอยู่ระหว่างการปรับพอร์ตเพื่อลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น และปรับลดพอร์ตลงทุนในประเทศลง เนื่องจากขนาดของกองทุนประกันสังคมค่อนข้างใหญ่ การลงทุนในประเทศไทยไม่สามารถรองรับได้ ดังนั้นจึงต้องไปลงทุนในต่างประเทศเพื่อหาผลตอบแทนที่ดีกว่า
สำหรับอันดับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ BCP ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2567 อันดับแรก บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้น 257,289,912 หุ้น คิดเป็น 18.69% อันดับสอง สำนักงานประกันสังคม ถือหุ้น 195,252,597 หุ้น คิดเป็น 14.18% อันดับสาม กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง ถือ 188,200,000 หุ้น คิดเป็น 13.67% อันดับสี่ กระทรวงการคลัง ถือ 65,543,767 หุ้น คิดเป็น 4.76% และอันดับห้า SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED ถือหุ้น 43,712,398 หุ้น คิดเป็น 3.17%
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ยังประมาณการกำไรปีนี้ของ BCP ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือ YoY แต่ถ้าไม่นับรวมกำไรพิเศษในปี 2566 จะเติบโต 54% YoY โดยปี 2567 คาดว่าจะมีการเติบโตได้ดีจากรับรู้ผลกำไรจากบริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC เต็มปี และอัตราการผลิตของ BSRC ที่เพิ่มขึ้นหลังจากการเข้าไปถือหุ้นของ BCP คงราคาเป้าหมายที่ 46 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) คาดผลการดำเนินงานปกติไตรมาสที่ 3/2567 ของ BCP จะฟื้นตัวตามทิศทางค่าการกลั่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อ้างอิงจากค่าการกลั่นสิงคโปร์เฉลี่ย Q3/67 (QTD) อยู่ที่ราว 4.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 30% จากไตรมาสก่อน หรือ QoQ ประกอบกับโรงกลั่นพระโขนงผ่านการปิดซ่อมบำรุงตามแผน
ด้านธุรกิจไฟฟ้า แม้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำในสปป.ลาวจะเข้าสู่ช่วง high season แต่ภาพรวมกำไรจะลดลงจากการสิ้นสุด Adder ของโครงการ Solar Farm ในไทย และรายได้หายไปจากการขายสินทรัพย์ในญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามยังพอมีส่วนชดเชยจากโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ เนื่องจากค่าใช้จ่ายพิเศษลดลง