“บล.เคจีไอ” คัด 5 หุ้นน่าลงทุน เดือน ก.ย. รอปัจจัยหนุน

“บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)” แนะเก็บ 5 หุ้น CPAXT-CBG-TFG-AAV-GPSC ช่วงรอตลาดหุ้นเดือน ก.ย. ฟื้นตัว พร้อมคาดการณ์ผลงานปี 67 เติบโตแข็งแกร่ง


บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ ถึงทิศทางตลาดหุ้นเดือนกันยายน ที่คาดการณ์ว่าอยู่ในช่วงฟื้นตัว แต่อาจมีความผันผวน ซึ่งคาดการณ์ว่าแนวโน้มหลักของดัชนี SET ยังอยู่ในขาขึ้นจากปัจจัยบวก อาทิ 1.) ความคาดหวังต่อนโยบายเศรษฐกิจของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ซึ่งน่าจะมีโครงการแจกเงินสดที่คาดการณ์ดำเนินการในเดือนกันยายนนี้ 2.) ความคืบหน้าของการออก กองทุนวายุภักษ์ รอบใหม่

รวมไปถึง 3.) จิตวิทยาเชิงบวกในตลาดโลกจากความคาดหมายว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18 กันยายน 2567 และส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีกไปจนถึงกลางปี 2568 โดบฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่าดัชนี SET มีโอกาสจะขึ้นไปทดสอบระดับจิตวิทยาที่ 1,400 จุด

อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังการลงทุนในช่วงครึ่งหลังของเดือนกันยายนเพราะตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจจะเผชิญแรงขายทำกำไร (sell-on-fact) หลังจากที่ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญและกลับมาจุดประเด็นความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้ง

นอกจากนั้น ฝ่ายนักวิเคราะห์ยังคงมองแนวโน้มตลาดหุ้นในเชิงบวก แต่ก็คาดการณ์ว่าจะผันผวนแรงขึ้นด้วย หลังดัชนีฟื้นตัวแล้วจึงไม่แนะนำหุ้น “บิ๊กแคป” โดยทั่วไปสำหรับการเลือกหุ้นในเดือนกันยายน นี้ แต่แนะนำให้นักลงทุนเลือกหุ้น ดังต่อไปนี้

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT โดยมองว่าเป็นผู้ประกอบการค้าส่งที่จะได้อานิสงส์จากมาตรการแจกเงินสด 1.40-1.50 แสนล้านบาท ในเดือนกันยายน นี้ สำหรับแนวโน้มในระยะยาวนักวิเคราะห์ของยังคาดการณ์ว่ากำไรปี 2567 จะเติบโต 31% และในปี 2568 เติบโต 18%

รวมถึง บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG คาดการณ์จะได้อานิสงส์จากการบริโภคภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่ายอดขายในไตรมาส 3 ปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น และ รายได้จากการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มยอดขายเบียร์คาราบาวผ่านทั้งช่องทางจัดจำหน่ายทั้งแบบดั้งเดิม และ modern trade

ขณะที่ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นในทุกหน่วยธุรกิจของ TFG ในขณะเดียวกันกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นในเวียดนาม และจำนวนร้านค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของยอดขายในครึ่งหลังปี 2567

ส่วน บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ถึงแม้ว่าไตรมาส 3 ปี 2567 จะเป็นช่วงที่ชะลอตัวตามฤดูกาล แต่ราคาหุ้นน่าจะได้แรงสนับสนุนจากปัจจัย ดังต่อไปนี้ 1.) การเข้าสู่ช่วง peak ตามฤดูกาลในไตรมาส 4 ปี 2567 และ 2.) อานิสงส์จากการแข็งค่าของเงินบาท โดยฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่า AAV เป็นหุ้นที่อ่อนไหวกับค่าเงินมากที่สุดในบรรดาหุ้นทั้งหมดที่ฝ่ายนักวิเคราะห์ศึกษาอยู่ในเชิงของอานิสงส์ที่จะได้จากการแข็งค่าของเงินบาท

ท้ายสุด บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC คาดการณ์ว่าผลประกอบการของ GPSC จะไม่น่าตื่นเต้นในครึ่งหลังปี 2567 แต่คาดการณ์ว่ายังมีตัวแปรในตลาด (macro variables) ที่จะช่วยสนับสนุนราคาหุ้นในเดือนกันยายนนี้อย่าง ได้แก่ เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง

Back to top button