วายุภักษ์! ประเดิมซื้อ 1 ต.ค.นี้ เงินทะลัก 1.5 แสนลบ. จับตา “Mid-Small Cap” เป็นเลิศ ESG
“ปลัดคลัง” คอนเฟิร์มกองทุนวายุภักษ์อัดเม็ดเงิน 1.5 แสนล้านบาท เข้าลงทุนหุ้นไทย 1 ต.ค.นี้ เปิดขายให้แก่นักลงทุนทั่วไป 16-20 ก.ย. 67 ส่วนนักลงทุนสถาบัน 18-20 ก.ย. 67 มีกลไกคุ้มครองเงินลงทุนและผลตอบแทน ปักหมุดหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มี ESG ระดับ AAA รวม 34 หุ้นเด็ด นำโดย ADVANC-AMATA-BANPU-BCP-BGRIM-CPALL-CPAXT-CPF-CENTEL-PR9-KBANK-KTB “บล.กรุงศรี” ประเมินเม็ดเงินรวมวายุภักษ์-กองทุน ESG เข้าหุ้นไทยรวม 1.7 แสนล้านบาท ไตรมาส 4/67 นี้ ดันตลาดวิ่งคึกคักช่วงปลายปี
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานของกองทุนรวมวายุภักษ์ เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า คลังจะเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง หรือ VAYU1 ให้แก่นักลงทุนทั่วไป ช่วงระหว่างวันที่ 16-20 กันยายน 2567 มูลค่ารวมไม่เกิน 1.5 แสนล้านบาท
ส่วนนักลงทุนสถาบัน เปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 18-20 กันยายน 2567 โดยกองทุนวายุภักษ์จะเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ขณะที่หน่วยลงทุน VAYU1 จะเข้าซื้อขายในตลาดฯ วันที่ 15 ตุลาคมนี้
ทั้งนี้ หน่วยลงทุนประเภท ก. ซึ่งมีระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้นของหน่วยลงทุนที่ 10 ปี โดยผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. จะได้รับเงินปันผลในแต่ละปีตามอัตราผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริงของกองทุนฯ แต่ไม่น้อยกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ และไม่เกินกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นสูง ซึ่งจะชี้แจงในหนังสือชี้ชวนต่อไป
โดยอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำและขั้นสูงดังกล่าวจะเป็นอัตราคงที่ตลอด 10 ปี นอกจากนี้กองทุนฯ จะมีกลไกคุ้มครองเงินลงทุนของหน่วยลงทุนประเภท ก. โดยจะมีสิทธิได้รับชำระคืนเงินลงทุนตามแนวทางการชำระคืนเงินลงทุนที่มีลักษณะเป็น water fall และมีการกำหนดสัดส่วนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนฯ ต่อเงินลงทุนของหน่วยลงทุนประเภท ก. และมาตรการต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. หากสัดส่วนดังกล่าวลดลง
“กองทุนมีกลไกคุ้มครองเงินลงทุนแบบ water fall โดยในส่วนของเงินต้นผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. มีสิทธิได้รับชำระคืนเงินต้นตามมาตรการดังกล่าว จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนรวมก่อนผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข. (กระทรวงการคลัง)”
สำหรับหุ้นที่กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง จะเปิดกว้างให้มีการลงทุนในหุ้น Small & Mid Cap ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีคะแนน ESG สูง เพื่อเปิดกว้างให้กับผู้บริหารกองทุนต่าง ๆ ได้มีตัวเลือกในการเข้างลงทุนมากขึ้น จากเดิมมีข้อจำกัดการลงทุนเพียงแค่หุ้นในกลุ่มหุ้นบลูชิพที่อยู่ใน SET50 หรือ SET100 เท่านั้น
ก่อนหน้านี้ นายลวรณ กล่าวว่า จะมีธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เข้าลงทุนในกองทุนวายุภักษ์ด้วย
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ธนาคารออมสินสนใจที่จะเข้าลงทุนในกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง
34 หุ้น ESG ยอดเยี่ยม
จากการรวบรวมข้อมูลของ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” พบว่ามี 34 หุ้น ESG ชั้นเยี่ยม (AAA) ที่มีสภาพคล่องดี อาทิ ADVANC, AMATA, AJ, BANPU, BAY, BCP, BGRIM, BKI, BPP, CKP, CPALL, CPAXT, CPF, CENTEL, KBANK, KTB, KTC, M-CHAI, OR, PR9, PTT, PTTEP, PTTGC, SABINA, SCC, SCGP, STA, STGT, TFMAMA, THCOM, TISCO, TOP, WHA และ WHAUP
นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS กล่าวแนะนำธีมลงทุนใน Vayupak Play หลังจาก SET Index ระยะสั้นเริ่มฟื้นตัว และ Outperform ประเทศในเอเชีย แนวโน้มระยะกลางมีปัจจัยบวกหนุนจาก 1.กองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG หลักเกณฑ์ใหม่ 2.เม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ จะเสนอขายนักลงทุนทั่วไปภายใน Q3/67
สำหรับกองทุนวายุภักษ์วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ที่กลับมาเสนอขายนักลงทุนทั่วไปภายใน Q3/67 นี้ ซึ่งนโยบายลงทุนจะประกอบด้วยการลงทุน Passive หุ้นที่มีผลประกอบการและกระแสเงินสดที่มีความมั่นคงสูง และการลงทุนแบบ Active ขณะที่ในด้านหนึ่งเกณฑ์การลงทุนในหุ้นที่มี ESG จะถูกนำมาพิจารณาเพิ่มเติม
ในเชิงกลยุทธ์เน้น 1.หุ้นที่คลังเป็นผู้ถือหุ้น, อยู่ในวายุภักษ์ 1 เติบโตดี อาทิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB 2.อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และ Valuation ถูก อาทิ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO, บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP 3.มีน้ำหนักใน SETESG สูง, โตดี, Theme Data Center อาทิ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF
ส่วนแนวโน้มกระแสเชิงบวกจากการลงทุนด้วยธีม ESG จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นนับจากนี้ไป จากแรงหนุนกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG หลักเกณฑ์ใหม่ ปรับเงื่อนไขให้สิทธิซื้อเพิ่มลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้นทั้งเม็ดเงินและสัดส่วนเทียบกับฐานรายได้ ผสานระยะเวลาการถือครองเพื่อลงทุน พร้อมรับสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษีสั้นลง คาดส่งผลบวกมีเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ตลาดหุ้นไม่ต่ำกว่า LTF ในอดีต โดยประเมินปีละ 7.8 หมื่นล้านบาท
โดยฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ประเมินว่า เม็ดเงินใหม่ที่กำลังเข้าสู่ตลาดหลัก ๆ 2 ส่วน จากกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG และวายุภักษ์ ในปี 2567 ส่วนใหญ่น่าจะเข้ามาช่วง Q4/67 สูงถึงราว 1.7 แสนล้านบาท (กองทุนวายุภักษ์ 1.5 แสนล้านบาท บวกกับเม็ดเงินกองทุน ThaiESG มีผล 3 เดือน เดือนละ 6-7 พันล้านบาท) ต่อยอดด้วยเม็ดเงิน ThaiESG เต็มปีในปี 2568 อีก 7.8 หมื่นล้านบาท น่าจะหนุน SET ที่ปัจจุบันมีปัจจัยขับเคลื่อนการเมืองภายในชัดเจน และรัฐบาลใหม่ค่อนข้างมีเสถียรภาพมากขึ้น
สำหรับกลยุทธ์แนะนำลงทุนหุ้น 3 กลุ่มดังต่อไปนี้ 1.หุ้นที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น, อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และมีแนวโน้มเติบโตดีในช่วงปี 2567-2568 ได้แก่ AOT, PTT, KTB 2.หุ้นที่อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และซื้อขายในระดับ Valuation Zone รวมถึงมีแนวโน้มการเติบโตดี ได้แก่ CPALL, SCC, MINT, CRC, HMPRO, SCC 3.หุ้นที่มีน้ำหนักใน SETESG สูง และมีแนวโน้มการเติบโตดี อยู่ใน Theme Data Center ได้แก่ ADVANC, GULF มีโอกาสเป็นเป้าหมาย