SET พุ่ง 23 จุด แรงซื้อ 10 บลูชิพ รับ “วายุภักษ์” ประเดิมอัดเงิน 1.5 แสนล้าน 1 ต.ค.นี้

SET พุ่ง 23 จุด แตะระดับ 1,388.41 จุด รับแรงซื้อ 10 บลูชิพ ได้แก่ SCGP-GULF-SCC-ADVANC-MINT-CRC-CPALL-AOT-KTB-PTT รับกองทุน "วายุภักษ์หนึ่ง" ประเดิมอัดเงิน 1.5 แสนล้านบาท เริ่มเข้าตลาดหุ้นวันที่ 1 ต.ค.67


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ก.ย.67) ดัชนีตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ เวลา 11:08 น. อยู่ที่ 1,388.41 จุด เพิ่มขึ้น 23.31 จุด หรือ 1.71% สูงสุดที่ 1,390.58 จุด ต่ำสุดที่ 1,371.49 จุด มูลค่าการซื้อขาย 26,452.76 ล้านบาท ขานรับคลังจะเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง หรือ VAYU1 ให้แก่นักลงทุนทั่วไป ช่วงระหว่างวันที่ 16-20 กันยายน 2567 มูลค่ารวมไม่เกิน 1.5 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาหุ้น บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP อยู่ที่ระดับ 26.50 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 6.00% สูงสุดที่ระดับ 26.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 25.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 218.04 ล้านบาท

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF อยู่ที่ระดับ 52.75 บาท บวก 1.75 บาท หรือ 3.43% สูงสุดที่ระดับ 52.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 51.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 608.20 ล้านบาท

บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC อยู่ที่ระดับ 233.00 บาท บวก 5.00 บาท หรือ 2.19% สูงสุดที่ระดับ 234.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 229.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 383.68 ล้านบาท

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC อยู่ที่ระดับ 253.00 บาท บวก 5.00 บาท หรือ 2.02% สูงสุดที่ระดับ 253.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 249.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 210.89 ล้านบาท

บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT อยู่ที่ระดับ 27.25 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.87% สูงสุดที่ระดับ 27.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 26.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 192.05 ล้านบาท

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC อยู่ที่ระดับ 30.00 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.69% สูงสุดที่ระดับ 30.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 29.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 128.71 ล้านบาท

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL อยู่ที่ระดับ 61.25 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.24% สูงสุดที่ระดับ 61.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 60.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 542.39 ล้านบาท

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT อยู่ที่ระดับ 61.50 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.23% สูงสุดที่ระดับ 61.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 60.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 283.48 ล้านบาท

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB อยู่ที่ระดับ 19.10 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 1.06% สูงสุดที่ระดับ 19.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 18.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 529.61 ล้านบาท

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT อยู่ที่ระดับ 33.25 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.76% สูงสุดที่ระดับ 33.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 32.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 683.41 ล้านบาท

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานของกองทุนรวมวายุภักษ์ เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า คลังจะเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง หรือ VAYU1 ให้แก่นักลงทุนทั่วไป ช่วงระหว่างวันที่ 16-20 กันยายน 2567 มูลค่ารวมไม่เกิน 1.5 แสนล้านบาท

ส่วนนักลงทุนสถาบัน เปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 18-20 กันยายน 2567 โดยกองทุนวายุภักษ์จะเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ขณะที่หน่วยลงทุน VAYU1 จะเข้าซื้อขายในตลาดฯ วันที่ 15 ตุลาคมนี้

ทั้งนี้ หน่วยลงทุนประเภท ก. ซึ่งมีระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้นของหน่วยลงทุนที่ 10 ปี โดยผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. จะได้รับเงินปันผลในแต่ละปีตามอัตราผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริงของกองทุนฯ แต่ไม่น้อยกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ และไม่เกินกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นสูง ซึ่งจะชี้แจงในหนังสือชี้ชวนต่อไป

โดยอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำและขั้นสูงดังกล่าวจะเป็นอัตราคงที่ตลอด 10 ปี นอกจากนี้กองทุนฯ จะมีกลไกคุ้มครองเงินลงทุนของหน่วยลงทุนประเภท ก. โดยจะมีสิทธิได้รับชำระคืนเงินลงทุนตามแนวทางการชำระคืนเงินลงทุนที่มีลักษณะเป็น water fall และมีการกำหนดสัดส่วนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนฯ ต่อเงินลงทุนของหน่วยลงทุนประเภท ก. และมาตรการต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. หากสัดส่วนดังกล่าวลดลง

“กองทุนมีกลไกคุ้มครองเงินลงทุนแบบ water fall โดยในส่วนของเงินต้นผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. มีสิทธิได้รับชำระคืนเงินต้นตามมาตรการดังกล่าว จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนรวมก่อนผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข. (กระทรวงการคลัง)”

สำหรับหุ้นที่กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง จะเปิดกว้างให้มีการลงทุนในหุ้น Small & Mid Cap ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีคะแนน ESG สูง เพื่อเปิดกว้างให้กับผู้บริหารกองทุนต่างๆ ได้มีตัวเลือกในการเข้างลงทุนมากขึ้น จากเดิมมีข้อจำกัดการลงทุนเพียงแค่หุ้นในกลุ่มหุ้นบลูชิพที่อยู่ใน SET50 หรือ SET100 เท่านั้น

ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลของ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” พบว่ามี 34 หุ้น ESG ชั้นเยี่ยม (AAA) ที่มีสภาพคล่องดี อาทิ ADVANC, AMATA, AJ, BANPU, BAY, BCP, BGRIM, BKI, BPP, CKP, CPALL, CPAXT, CPF, CENTEL, KBANK, KTB, KTC, M-CHAI, OR, PR9, PTT, PTTEP, PTTGC, SABINA, SCC, SCGP, STA, STGT, TFMAMA, THCOM, TISCO, TOP, WHA และ WHAUP

นอกจากนี้ นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS กล่าวแนะนำธีมลงทุนใน Vayupak Play หลังจาก SET Index ระยะสั้นเริ่มฟื้นตัว และ Outperform ประเทศในเอเชีย แนวโน้มระยะกลางมีปัจจัยบวกหนุนจาก 1.กองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG หลักเกณฑ์ใหม่ 2.เม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ จะเสนอขายนักลงทุนทั่วไปภายในไตรมาส 3/67

สำหรับกองทุนวายุภักษ์วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ที่กลับมาเสนอขายนักลงทุนทั่วไปภายในไตรมาส 3/67 นี้ ซึ่งนโยบายลงทุนจะประกอบด้วยการลงทุน Passive หุ้นที่มีผลประกอบการและกระแสเงินสดที่มีความมั่นคงสูง และการลงทุนแบบ Active ขณะที่ในด้านหนึ่งเกณฑ์การลงทุนในหุ้นที่มี ESG จะถูกนำมาพิจารณาเพิ่มเติม

ในเชิงกลยุทธ์เน้น 1.หุ้นที่คลังเป็นผู้ถือหุ้น, อยู่ในวายุภักษ์ 1 เติบโตดี  อาทิ AOT, PTT, KTB

2.อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และ Valuation ถูก อาทิ CPALL, SCC, MINT, CRC, HMPRO, SCGP

3.มีน้ำหนักใน SETESG สูง, โตดี, Theme Data Center อาทิ ADVANC, GULF

ส่วนแนวโน้มกระแสเชิงบวกจากการลงทุนด้วยธีม ESG จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นนับจากนี้ไป จากแรงหนุนกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG หลักเกณฑ์ใหม่ ปรับเงื่อนไขให้สิทธิซื้อเพิ่มลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้นทั้งเม็ดเงินและสัดส่วนเทียบกับฐานรายได้ ผสานระยะเวลาการถือครองเพื่อลงทุน พร้อมรับสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษีสั้นลง คาดส่งผลบวกมีเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ตลาดหุ้นไม่ต่ำกว่า LTF ในอดีต โดยประเมินปีละ 7.8 หมื่นล้านบาท

Back to top button