โจทย์ใหญ่พลิกฟื้นเศรษฐกิจ วัดฝีมือรัฐบาล “อิ๊งค์ 1” เรียกความมั่นใจตลาดทุน

“ แพทองธาร - สรวงศ์ ” ประสานเสียง รัฐบาลเพื่อไทยพร้อมพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เชื่อ นโยบายฯกระตุ้นตลาดทุน หลายหุ้น ได้อานิสงส์


ก่อนหน้านี้มีรายงานจาก “ธนาคารยูบีเอส” ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลถึงเรื่องความมั่งคั่งทั่วโลก ประจำปี 2567 โดยพบว่า จำนวนมหาเศรษฐีทั่วโลกยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ในอีก 5 ปีข้างหน้า คาดการณ์กันว่า  ประเทศไทยจะถูกเรียกว่า มีความมั่งคั่งสูง (มีทรัพย์สินรวมกันเกิน 1,800 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นอีกราว 24% จากประมาณ 100,000 คน เป็นกว่า 123,500 คน ติดอันดับ 9 ที่จะมีมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นมากที่สุดในโลก  แต่อย่างไรก็ตาม ข้อมูล “ธนาคารโลก” คาดการณ์คู่ขนานว่า แนวโน้มความร่ำรวยดังกล่าวก็มาพร้อมกับความเหลื่อมล้ำ ช่องว่างระหว่าง “คนรวย” กับ “คนจน” ที่จะห่างมากขึ้นเรื่อยๆ

จากข้อมูลทั้งสองข้อมูลข้างต้นนี้ ทำให้สังคมไทยเข้าใกล้คำว่า “รวยกระจุก จนกระจาย” อย่างเต็มรูปแบบ  จึงกลายเป็นภารกิจของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยที่ต้องเพิ่มระดับรายได้หรือการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต้องควบคู่ไปกับเป้าหมายในการกระจายรายได้ อธิบายง่ายๆ คือ ทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นไปพร้อมๆกัน

ที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า นโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภา ในวันที่ 12 ก.ย. -13 ก.ย. นี้ แน่นอนว่า จะมุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังบอกรายละเอียดมากไม่ได้ บอกได้แค่ว่า จะสานต่อแนวทางที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เคยดำเนินนโยบายค้างไว้

ส่วนการโหวตผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ที่กำลังพิจารณาอยู่ในสภาขณะนี้ แล้วจะมีการโหวตภายในคืนนี้นั้น นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้วและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ยืนยันว่า น่าจะราบรื่น ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเสียงของฝั่งรัฐบาลเพียงพอแล้ว

บทสัมภาษณ์ดังกล่าว ที่สองหัวเรือใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ ยืนยันประสานเสียงไปในทิศทางเดียวกันว่า เรื่องงบประมาณปี 68  ไม่มีปัญหา และ พร้อมเดินหน้าเต็มที่ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ  อีกทั้งภาวะดังกล่าวหนุนให้สุญญากาศทางการเมืองหายไป นอกจากนี้ รัฐบาลยังตุนงบประมาณไว้เต็มมือราว 3.5 แสนล้านบาท โดยนโยบายที่คาดว่าจะออกมา และ เกี่ยวข้องกับตลาดทุนโดยตรง มีดังต่อไปนี้

  1. งบประมาณฯ ปี 2568 ผ่านรัฐสภาฉลุยภายในเดือน ก.ย. 67 มองบวกต่อหุ้น CK -STEC- TASCO- BBL- SCC -SCCC
  2. การปรับเปลี่ยนนโยบาย DIGITAL WALLET โดยเสนอปรับ แจกเงินสดแก่กลุ่มเปราะบาง-ผู้พิการก่อน 10,000 บาท/ราย หุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ MTC-BAM -TIDLOR-TU- TFG GFPT -CPALL-CPAXT- BJC
  3. การเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยการขยายความจุสนามบินสุวรรณภูมิ และการสร้าง ENTERTAINMENT COMPLEX ครบวงจร หุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ AWC -CENTEL MINT -ERW -CPN- AOT

จากข้อมูลดังกล่าว สามารถสรุปได้ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร จะเริ่มทำงานช่วงกลางเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งมาพร้อมกับอาวุธเต็มมือ ตุนเม็ดเงินกว่า 3 แสนล้านบาท หนุนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และเดินหน้านโยบายระยะยาว นอกจากนี้เการเปิดกองทุนวายุภักษ์ที่จะเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทย 1 ต.ค. นี้ คาดว่าเม็ดเงินจะทะลักเข้า SET 1.5 แสนล้านบาท

ขณะเดียวกัน มีรายงาน ระบุว่า เมื่อการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เสร็จสิ้นแล้ว ทางกระทรวงการคลัง จะกำหนดวันในการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และ กองทุนวายุภักษ์ โดยทันที จึงต้องจับตาดูว่า หลังแถลงรายละเอียดนโยบายทั้งสองแล้ว จะได้รับเสียงตอบรับมากน้อยแค่ไหน

Back to top button