จังหวะสอย! 14 หุ้น จ่อรับนโยบายเร่งด่วน “ครม.อิ๊งค์1” เน้นกระตุ้น “ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่”
คัด 14 หุ้นเด่นรับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล “อุ๊งอิ๊ง” ที่จะเน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น ชี้เป็นปัจจัยบวกต่อภาคการท่องเที่ยว การบิน ค้าปลีก ก่อสร้าง ธุรกิจสื่อ และโรงแรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศนโยบายเร่งด่วนที่จะรีบแก้ไขเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งจะเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้วยการสานต่อความสำเร็จในการปรับโครงสร้างการตรวจลงตราทั้งหมดของประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ขอวีซ่า เช่น กลุ่มผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ (MICE) และกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานทางไกล (Digital Nomad) ซึ่งสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวถึง 1.892 ล้านล้านบาท ในปี 66
ทั้งนี้ การส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destinations) เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้า สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) นำคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทย รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินมหาศาลที่จะกระจายลงสู่ผู้ประกอบการภายในประเทศได้อย่างรวดเร็ว
โดยนโยบายดังกล่าว บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ระบุว่า จะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นที่มีสัดส่วนรายได้ในไทยสูง ตามทิศทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาไทย ประกอบด้วย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW รายได้สัดส่วน 90% มาจากโรงแรมในไทยมากที่สุดในกลุ่ม และ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL รายได้โรงแรมสัดส่วน 82% อยู่ในไทย
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DAOL ระบุว่า การที่ภาครัฐผลักดันโครงการ “Entertainment Complex” จะเป็นบวกต่อหุ้น บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY จากการลงทุน Concert Hall และกลุ่มท่องเที่ยว จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น เช่น AOT, บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV, ERW, CENTEL แต่หากก่อตั้ง Complex ใกล้สนามบินอู่ตะเภา คาดบวกต่อหุ้น บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA, บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS, บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC
ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PST ระบุว่า มีหุ้น 4 กลุ่มได้ประโยชน์ ได้แก่ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เช่น บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK, STEC
กลุ่มสื่อ เช่น GRAMMY, บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE, บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS, บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK, บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI
กลุ่มท่องเที่ยว เช่น CENTEL, ERW และ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT