บุกจับ CEO บริษัทมหาชนไม่ส่งงบปี 65 อ้าง! ถูกสวมชื่อ-เป็นแค่ช่างก่อสร้าง

เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม “ไพวัลย์” ซีอีโอบริษัทมหาชน ฐานไม่จัดทำและส่งงบการเงินภายในเวลาที่กำหนด แต่ผู้ต้องหาอ้างว่าถูกนำบัตรประชาชนไปสวมชื่อ เพราะส่วนตัวมีอาชีพช่างก่อสร้าง ไม่เคยทำงานระดับบริหาร จึงส่งตัวให้พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. ดำเนินคดีต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (7 ก.ย.67) พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ., พ.ต.ท.หญิง ปวีณวรรณ พลหาญ สว.กก.3 บก.ปอศ. นำกำลังจับกุม นายไพวัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 3777-79/2567 ลงวันที่ 14 ส.ค.67 ในข้อหา “บริษัทฝ่าฝืนกฎหมายโดยไม่จัดทำและส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนด, เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทมีหน้าที่สั่งการ เพื่อให้จัดทำและนำส่งงบการเงินแต่ฝ่าฝืนกฎหมายฯ”  ภายในซอยหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านบางแคเหนือ เขตบางแค กทม.

โดยก่อนหน้าเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง ซึ่งมี นายทรงฤทธิ์ (ปัจจุบันยังหลบหนี) และนายไพวัลย์ ผู้ต้องหารายนี้ กรรมการผู้มีอำนาจ ฝ่าฝืนกฎหมายโดยไม่จัดทำและส่งงบการเงินในระยะเวลาที่กำหนด ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทมหาชนฯ จะต้องส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานต่อก.ล.ต.

นอกจากนี้ ยังเคยเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น (Warrant) แม้ภายหลังตลาดหลักทรัพย์จะเพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทฯ ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนแล้วก็ตาม แต่ยังคงมีผู้ถือหุ้นจำนวนกว่า 1,124 ราย (เกินกว่า 100 ราย) จึงมีหน้าที่ต้องจัดทำและนำส่งงบการเงินประจำปี 65 เมื่อครบกำหนดผู้ต้องหากลับเพิกเฉย ไม่ได้ดำเนินการตามหน้าที่แต่อย่างใดทั้งสิ้น

ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่า นายไพวัลย์ เป็นหนึ่งในกรรมการผู้มีอำนาจ ปัจจุบันหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านย่านบางแค ก่อนเข้าจับกุมได้ดังกล่าว

โดยจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธอ้างว่า ถูกนำบัตรประชาชนของตนไปสวมชื่อเป็นกรรมการบริษัท เพราะส่วนตัวแล้วมีอาชีพเป็นช่างก่อสร้าง ค่าจ้างเพียงวันละ 400 บาท ไม่เคยไปทำงานระดับบริหารของบริษัทฯ ดังกล่าวแต่อย่างใด จึงส่งตัวให้พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. ดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้ ทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ตรวจสอบเพิ่มเติมในเว็บไซต์ของ ก.ล.ต. พบว่าบริษัทมหาชนดังกล่าวคือ บริษัท เอสเอ็มซี พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SMC โดยก.ล.ต.ได้มีการกล่าวโทษทั้ง นายทรงฤทธิ์ บุตรงาม และนายไพวัลย์ บุตรสา ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท ซึ่งข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 4 เม.ย.67 อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน

อนึ่ง SMC ประกอบธุรกิจประเภทการขายส่งและการขายปลีกการซ่อมยานยนต์และ จักรยานยนต์ โดยให้บริการด้าน การขายยานยนต์ใหม่ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลรถกระบะรถตู้ และรถขนาดเล็กที่คล้ายกัน

Back to top button