เปิดไฟลิ่ง “กองทุนวายุภักษ์” ผลตอบแทน 3-9% รายย่อยจองซื้อ 16-20 ก.ย.นี้

“กองทุนวายุภักษ์” เปิดผลตอบแทนขั้นต่ำ 3% และสูงสุด 9% รายย่อยสามารถจองซื้อ ผ่าน 6 ธนาคาร 3 โบรกเกอร์ ได้ตั้งแต่ 16-20 ก.ย.67


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรุ่งนี้ (9 ก.ย.67) นายวราห์ สุจริตกุล ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง และนายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เตรียมแถลงข่าว “กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง”

โดยจะประกาศอัตราผลตอบแทน และรายละเอียดการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. พร้อมเปิดให้ผู้ลงทุนทั่วไปจองซื้อ เพิ่มทางเลือกการออมและการลงทุน ในเวลา 14:00-15:30 น. ณ หอศุกรีย์ แก้วเจริญ ชั้น 3 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ล่าสุดวันนี้ (8 ก.ย.67) ได้มีหนังสือชี้ชวนส่วนข้อมูลกองทุนรวม “กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” เผยแพร่ออกมา โดยข้อมูลตามหนังสือชี้ชวนกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง ระบุว่า การถือครองหน่วยลงทุนกรณีของผลตอบแทนรายปีและการชำระคืนเงินลงทุน กล่าวคือ 1)กรณีถือหน่วยลงทุนตั้งแต่เริ่มต้น จนครบระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้น 10 ปี ต้นทุนต่อหน่วยมูลค่าพาร์ 10 บาท จะได้รับเงินปันผลตามผลตอบแทนจริงของกองทุนรวมไม่น้อยกว่า 0.30 บาทต่อปี หรือ 3% ต่อปี และไม่เกินกว่า 0.90 บาทต่อปี หรือ 9% ต่อปี โดยคิดจากพาร์ 10 บาท คูณอัตราผลตอบแทนที่ได้รับต่อปี

ส่วนเมื่อถือหน่วยลงทุนครบ 10 ปี ได้รับเงินลงทุนคืน 10 บาท กรณี NAV รวมของกองทุนสูงกว่า 150,000 ล้านบาท หรือได้รับเงินทุนคืนน้อยกว่า 10 บาท ในกรณี NAV รวมของกองทุนรวมลดลงอย่างมากจากปัจจัยภายนอก เช่น การปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์และทำให้ NAV รวมของกองทุนต่ำกว่า 150,000 ล้านบาท

2.กรณีถือหน่วยลงทุนตั้งแต่เริ่มต้นและขายหน่วยลงทุนในตลาดรองก่อนครบระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้น 10 ปี ต้นทุนต่อหน่วยพาร์ = 10 บาท จะได้รับเงินปันผลตามผลตอบแทนจริงของกองทุนรวมไม่น้อยกว่า 0.30 บาทต่อปี และไม่เกินกว่า 0.90 บาทต่อปี โดยคิดจากพาร์ 10 บาท คูณอัตราผลตอบแทนที่ได้รับต่อปี ขายหน่วยลงทุนตลาดรองในราคาตลาด ซึ่งอาจสูงหรือต่ำกว่า NAV ได้เงินลงทุนคืน 9.95 บาท ลบค่าธรรมเนียมกรณีราคาตลาดต่ำกว่า NAV และได้เงินลงทุนคืน 10.10 บาท ลบค่าธรรมเนียมกรณีราคาตลาดสูงกว่า NAV

3.กรณีซื้อหน่วยลงทุนในตลาดรองและถือจนครบระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้น 10 ปีต้นทุนต่อหน่วย เท่ากับราคาในตลาดรองบวกค่าธรรมเนียมเท่ากับ 10.22 บาท และได้รับเงินปันผลตามผลตอบแทนจริงของกองทุนรวมไม่น้อยกว่า 0.30 บาทต่อปี และไม่เกินกว่า 0.90 บาทต่อปี โดยคิดจากพาร์ 10 บาท คูณอัตราผลตอบแทนที่ได้รับต่อปี กรณีนี้อัตราผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับ เมื่อคำนวณจากต้นทุนต่อหน่วย จะต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนที่คำนวณจากพาร์ เมื่อครบ 10 ปี ได้รับเงินลงทุนคืน 10 บาท กรณี NAV รวมของกองทุนสูงกว่า 150,000 ล้านบาท หรือได้รับเงินคืนทุนน้อยกว่า 10 บาท กรณี NAV รวมของกองทุนรวมลดลงอย่างมากจากปัจจัยภายนอก เช่น การปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ และทำให้ NAV รวมของกองทุนต่ำกว่า 150,000 ล้านบาท

สำหรับนโยบายการลงทุนลักษณะการลงทุนเชิงรุกและการลงทุนเชิงรับ โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.หลักทรัพย์สภาพคล่องเพื่อการดำเนินงานหรือรักษาสภาพคล่องของกองทุน 2.หลักทรัพย์เชิงรุกและ/หรือเชิงรับ อาทิ หลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ หน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ตราสารกองทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ ทั้งนี้จะบริหารลักษณะเชิงรุก เพื่อมุ่งสร้างผลตอบแทนที่ดีและมั่นคง ตามกรอบการลงทุนของคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานกองทุนรวมวายุภักษ์ เพื่อให้กองทุนรวมได้รับผลตอบแทนที่ดีและมั่นคงระยะยาว

3.หลักทรัพย์อื่น อาทิ Unlisted Securities ตราสารหนี้ Non-Investment Grade และ/หรือ Unrated Securities ได้ไม่เกิน 10% ของ NAV รวมถึงอาจลงทุนในทองคำ น้ำมันดิบ สินค้าโภคภัณฑ์ และหน่วย Private Equity ทั้งนี้กองทุนอาจลงทุนในกองทุนรวมอื่น ซึ่งอยู่ภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการเดียวกันได้สัดส่วนไม่เกิน 10% ของ NAV นอกจากนี้กองทุนรวมอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารกองทุนโดยกองทุนมีกลยุทธ์การลงทุนมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (active management)

สำหรับประเภทและคุณสมบัติของผู้ลงทุน บริษัทจัดการจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ให้แก่นักลงทุนทั่วไป ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย นิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย นักลงทุนภาครัฐ สหกรณ์ออมทรัพย์หรือชุมนุมสหกรณ์ มูลนิธิเพื่อสาธารณะประโยชน์ สภากาชาดไทย มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา และผู้ลงทุนสถาบันที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยเท่านั้น โดยจะไม่เสนอขายให้นักลงทุนต่างชาติ

ทั้งนี้ ประเภทของผู้จองซื้อ ได้แก่ 1.ผู้ลงทุนรายย่อย และ 2.ผู้ลงทุนสถาบันและนิติบุคคลเฉพาะกลุ่ม

โดยผู้ลงทุนรายย่อยสามารถจองซื้อหน่วยลงทุนได้ตั้งแต่เวลา 9:00 น. ของวันที่ 16 ก.ย.67 ถึงเวลา 16:00 น. ของวันที่ 20 ก.ย. 67

ส่วนผู้ลงทุนสถาบันและมีติบุคคลเฉพาะกลุ่มสามารถจองซื้อหน่วยลงทุนได้ตั้งแต่เวลา 9:00 น. ถึงเวลา 16:00 น. ของวันที่ 25-27 ก.ย.67

หมายเหตุ: ราคาตลาดของหน่วยลงทุนดังกล่าวเป็นการสมมติขึ้นเพื่อประกอบการอธิบายให้ผู้ถือหน่วยลงทุนเข้าใจถึงโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนหรือการชำระคืนเงินลงทุนในกรณีต่างๆ ที่อาจแตกต่างจากกลโกการคุ้มครองเงินลงทุนและผลตอบแทนแทนของกองทุนรวมที่ระบุไว้ในโครงการเท่านั้น โดยไม่ได้มีเจตนาในการชี้นำราคาหน่วยลงทุนในตลาดรองแต่อย่างใด

สำหรับรายชื่อบริษัทจัดการ ผู้จัดจำหน่ายหน่วยลงทุน และผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุน ประกอบด้วย

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) www.mfcfund.com โทร.02-649-2000 กด 0

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) www.ktam.co.th โทร.02-686-6100 กด 9

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด www.finansa.com โทร.02-697-3800

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) www.kasikornbank.com โทร.02-888-8888 ต่อ 869

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) www.bangkokbank.com โทร.1333 หรือ 02-645-5555 ตรวจสอบผลการจัดสรรกด *555

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) www.krungthai.com โทร.02-111-1111

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) www.krungsri.com โทร.1572

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) www.scb.co.th โทร.02-777-6784

ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th โทร.1115 กด 5

 

สามารถอ่านข้อมูลหนังสือชี้ชวนฉบับเต็มได้ด้านล่างนี้

Back to top button