แนวโน้ม SET อ่อนตัวตามตปท. เสี่ยงขาย “กลุ่มพลังงาน” หลังราคาน้ำมันร่วง
แนวโน้ม SET อ่อนตัวตามตลาดต่างประเทศ หลังตลาดแรงงานสหรัฐฯ ชะลอตัวลง กังวลเศรษฐกิจถดถอย หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ คาดกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ให้แนวรับไว้ที่ 1,410-1,400 จุด และแนวต้าน 1,435 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ระวังผันผวนจาก Sentiment ตลาดต่างประเทศไม่ดี หลังตลาดแรงงานสหรัฐฯ ชะลอตัวลง โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค. ออกมาต่ำกว่าคาด และกระทรวงแรงงานยังได้ปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ค.ลงจากรายงานเดิม ทำให้นักลงทุนไม่แน่ใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากเพียงใด และยังส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ
ส่วนในประเทศวันนี้ ติดตามการแถลงรายละเอียดกองทุนวายุภักษ์ 1 มองราคาหุ้นปรับตัวขึ้นตอบรับประเด็นดังกล่าวไปค่อนข้างมากแล้ว อาจเห็นการ sell on fact ขณะที่ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลงสู่ระดับ 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำระดับต่ำสุดใหม่นับตั้งแต่เดือน เม.ย.66 อาจส่งผลกดดันต่อกลุ่มหุ้นพลังงานวันนี้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อ SET EPS ถูกปรับลงจากคาดการณ์เดิม ให้แนวรับไว้ที่ 1,410-1,400 จุด และ แนวต้าน 1,435 จุด
ขณะเดียวกัน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (9 ก.ย.67) ว่าคาดการณ์ SET Index จะแกว่งตัว Sideways to Sideways Down ในกรอบอยู่ที่ระดับ 1,410-1,438 จุด ชะลอความร้อนแรงหลังปรับตัวขึ้นโดดเด่น 2 วันก่อนหน้ารวมกันกว่า 60 จุด หรือราว 4.60%
ขณะที่สถานะนักลงทุนต่างชาติทยอยปิด Position Long ในช่วงก่อนหน้าเพื่อทำกำไรระยะสั้น สวนบรรยากาศการลงทุนของตลาดหุ้นต่างประเทศยังค่อนข้างไปในทางลบหลัง ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค. ออกมาที่ 1.42 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 1.65 แสนตำแหน่งอยู่เล็กน้อย อัตราว่างงานลดลงเล็กน้อยใกล้เคียงคาดที่ 4.2% สวนค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 3.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนสูงกว่าคาดการณ์เล็กน้อย
ทั้งนี้ ทำให้ภาพรวมตัวเลขที่ออกมาดู ผสมผสาน และตลาดยังให้น้ำหนักว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนนี้ด้วย ความน่าจะเป็น 70% สวนสัปดาห์นี้รอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ เดือน ก.ค.
ด้านปัจจัย ในประเทศครม.ชุดใหม่จะแถลงนโยบายต่อสภาฯ วันที่ 12 ก.ย.67 ขณะที่กองทุนวายุภักษ์ 1 ล่าสุด มีการออกหนังสือชี้ชวนแล้วใหผลตอบแทน 3-9% ระดมทุน 1.5 แสนล้านบาท เปิดให้รายย่อยจอง 16-20 ก.ย.67 คาดยังเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวต่อในไตรมาส 4/67 ระยะสั้นมองกลุ่มการแพทย์, ท่องเที่ยว และโรงไฟฟ้า ซึ่งยัง Laggard ดัชนีและยังไม่ Overbought ในทางเทคนิคมีโอกาสฟื้นตัว ตามและดีกว่าตลาด