“อนุทิน” มั่นใจ กม. คุม “กัญชา” ในสมัยรัฐบาล “แพทองธาร” มาแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ ( 9 ก.ย.67) นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย​ เปิดเผยว่าความคืบหน้าการจัดทำนโยบายกัญชา​ภายหลังจากที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ​ เพื่อกำหนดนโยบายรัฐบาลก่อนแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา​ว่า​ขอให้ฟังการแถลงนโยบาย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ซึ่งให้นายกฯ พิจารณา เรื่อง การตรากฎหมายเป็น พ.ร.บ. ควบคุมการใช้กัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์โดยเคร่งครัด

ขณะที่ ทุกพรรคการเมืองเห็นพ้องแล้วใช่หรือไม่ เรื่องนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ได้หารือร่วมกันกับกระทรวงสาธารณสุขรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะมีการออกกฎหมายควบคุมกัญชาเพื่อให้ชัดเจนว่าการใช้จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุม และมุ่งเน้นไปเรื่องการแพทย์เพื่อสุขภาพ

ส่วนนโยบายของรัฐบาลส่งเสริมการกระตุ้นเศรษฐกิจเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex พรรคภูมิใจไทยมีความเห็นว่าให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งกฎหมายเรื่อง Entertainment Complex จะต้องมีการแก้ไข

ทั้งนี้พรรคมีความเห็นด้วยกับ Entertainment Complex เพราะเป็นสิ่งที่ชักจูงนักท่องเที่ยวเข้ามาและสร้างรายได้สร้างงาน ซึ่งต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรให้คนไทยได้ประโยชน์สูงสุดทั้งสนับสนุนการจ้างงาน การมีอุตสาหกรรมเพื่อสร้างรายได้ต่างๆ นอกจากนี้ ต้องมีการปรับเรื่องโซนนิ่ง เนื่องจากขณะนี้ยังติดปัญหาเรื่องโซนนิ่งอยู่ ฉะนั้นจะมาเปลี่ยนเป็นเรื่อง Entertainment Complex เมื่อไหร่ ก็ต้องมาแก้ไขปัญหานี้ซึ่งจะต้องมีการหารือกัน

นอกจากนี้ มองว่าถ้าคนไทยได้ประโยชน์ ประเทศไทยได้ประโยชน์ มีการพิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่าเศรษฐกิจเติบโตขึ้นคนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น มีการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็ต้องเน้นไปที่ประชาชนคนไทยด้วย Entertainment Complex อย่าเพิ่งนึกถึงบ่อนการพนัน​หรือ​กาสิโนที่ถูกกฎหมาย​ เพราะ Entertainment Complex จะมีทั้งห้างสรรพสินค้า ศูนย์อาหาร สวนสนุก ฮอลล์​จัดคอนเสิร์ตและโชว์ต่างๆ มากมาย ซึ่งจะเป็นสิ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น และหากเป็นไปได้ควรกระจาย ไม่ควรกำหนดให้เป็นจุดใดจุดหนึ่ง​

“ถ้าเป็นไปได้ก็กระจาย อย่าไปฟิกซ์ ไปตรงไหนตรงไหน กระจายให้ไปอยู่ในพื้นที่ ถ้าไปแล้วพื้นที่นั้นไม่มีการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ​ แล้วจะไปสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่​ ที่นั้นก็จะเป็นประโยชน์​โดยรวม” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า​ การร่วมรัฐบาลที่เป็นพรรคร่วมอยู่ 5-6 พรรค​ โดยกติกามารยาทต้องสนับสนุนซึ่งกันและกันอยู่ หากไม่สนับสนุน​ และพอถึงตานโยบายพรรค ฝั่งนั้นไม่สนับสนุนแล้วประชาชนจะได้อะไร​ ประเทศจะได้อะไร​ ฉะนั้นต้องสนับสนุนให้มีการขับเคลื่อน แต่ทุกอย่างต้องถูกต้องตามครรลองคลองธรรม ไม่ผิดศีลธรรม เกิดประโยชน์อย่างชัดเจนต่อส่วนรวม