TSE ออกหุ้นกู้ชุดใหม่ ชูดอกเบี้ยสูง 5.25% ขายสถาบัน-รายใหญ่ 15-17 ต.ค.นี้

ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน อายุ 1 ปี 3 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2569 อัตราดอกเบี้ยราว 5.0-5.25% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ สามารถจองซื้อหุ้นกู้ขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท มีมูลค่าเสนอขายรวมไม่เกิน 1,175 ล้านบาท

โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ BBB แนวโน้ม Stable จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงภาระหนี้สินที่ลดลง มีกระแสเงินสดที่มั่นคงจากผลการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพของกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานชีวมวลของบริษัท

สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ วัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ชำระคืนหุ้นกู้ ที่จะครบกำหนด (TSE24OA) ในเดือนตุลาคม 2567 โดยจะเปิดจองซื้อในวันที่ 15-17 ต.ค. 2567 ผ่าน 9 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่  1. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL 2. บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด 3. บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด 4. บริษัทหลักทรัพย์บลูเบลล์ จำกัด 5. บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด 6. บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด 7. บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) 8. บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด และ 9. บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ตามลำดับ

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 667 ล้านบาท โดยมี EBITDA อยู่ที่ 510 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 184 ล้านบาท อีกทั้งยังมีกระแสเงินสดคงเหลือ (Cash Ending) กว่าพันล้านบาท รองรับการลงทุนใหม่ๆเพิ่มเติมในอนาคตเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อสถานะทางการเงินและความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มบริษัทฯ

ทั้งนี้ ในปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมดจำนวน 41 โครงการ มีกำลังการผลิตเสนอขาย 241.86 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการที่ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วจำนวน 34 โครงการ และโครงการที่ยังไม่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) อีก 7 โครงการ

“บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนเพิ่มเติมโดยตามหลักการเข้าร่วมการประมูลตามแผนการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT สำหรับปี 2565 – 2573 ทั้งในส่วนของเฟส 2 และ เฟส 3 ตั้งเป้าให้ได้อย่างน้อย จำนวน 100-150 เมกะวัตต์ พร้อมกับได้มีการแตกไลน์ธุรกิจ Healthcare สร้าง New S-Curve เพื่อหนุนผลงานให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป” ดร.แคทลีน กล่าวทิ้งท้าย