โบรกคัด 4 หุ้นรับประโยชน์ “วายุภักษ์” ชี้คงถูกมองข้าม
“บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)” ชี้ BCP-HMPRO-CPN-BBL ได้รับประโยชน์จากเม็ดเงิน “กองทุนวายุภักษ์” แต่ยังถูกตลาดมองข้าม หลังใช้หลักเกณฑ์คัดกรองจากปันผลน้อยกว่า 0 และ SET ESG Rating สูงกว่าระดับ AA
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ วันนี้ ( 9 ก.ย. 67) ว่าจากกรณีรัฐบาลเตรียมเปิด กองทุนวายุภักษ์ ซึ่งมีลายละเอียดของกองทุนวายุภักษ์ 1 ประเภท ก. จากหนังสือชี้ชวนที่เผยแพร่ เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา ดังนี้
โดยมีนโยบายการลงทุนแบ่งการลงทุนเป็น 3 ประเภท 1.) หลักทรัพย์สภาพคล่อง คือ เงินฝากตราสารหนี้ระยะสั้น, 2.) หลักทรัพย์เชิงรุกหรือเชิงรับ อาทิ หลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เช่น หุ้นใน SET100 ที่ SET ESG Rating A, หุ้นนอก SET100 ที่ SET ESG Rating AA ขึ้นไป เป็นต้น และ 3.) หลักทรัพย์อื่นๆ Non-Investment Grade Bond, Unrated Securities ได้ไม่เกิน 10% ของ NAV
ทั้งนี้ Single Entity Limit ของหุ้นรายตัวที่จดทะเบียนในไทยถือได้ไม่เกิน 25% ของ NAV และกลุ่มกิจการ (Group Limit) กำหนดให้ไม่เกิน 30% ของ NAV เกณฑ์นี้ คาดการณ์ทำให้เม็ดเงินที่เข้า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ถูกจำกัดลง
ขณะที่อัตราผลตอบแทนจ่ายรูปแบบเงินปันผลตามจริงไม่ต่ำกว่า 3% และไม่เกิน 9% ต่อปี ส่วนการคุ้มครองเงินลงทุนผ่านกลไก Waterfall ซึ่งหน่วยลงทุน ข จะรับผลขาดทุนก่อนระยะเวลาการลงทุน เบื้องต้นกำหนด 10 ปี และหากอยากขายก่อนสามารถทำการซื้อขายได้ผ่านตลาดหลักทรัพย์ โดยอิงราคาซื้อขายตามตลาด
ส่วนระยะเวลาจองสำหรับนักลงทุนทั่วไปจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 16-20 ก.ย. 67 และนักลงทุนสถาบันในประเทศเริ่มวันที่ 25-27 ก.ย.67 โดยมีวงเงินเสนอขายรวม 1.5 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตามระยะเวลาการจองอาจมีการปรับเปลี่ยนได้
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์เม็ดเงิน กองทุนวายุภักษ์ จะเริ่มเข้าตลาดในช่วงเดือน ต.ค. 67 ผลักดันต่อ SET ได้ราว 150-200 จุด ซึ่งหุ้นที่ได้ประโยชน์หลายบริษัทได้ปรับขึ้นไปแรงในเชิงกลยุทธ์จึงเลือกหุ้นที่คาดการณ์จะมีเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์เข้าหนุนแต่ตลาดยังมองข้าม
โดยใช้เกณฑ์คัดกรองจากผลตอบแทนจากปีปัจจุบัน (YTD Return) น้อยกว่า 0 , SET ESG Rating สูงกว่า AA , อัตราปันผลไม่ต่ำกว่า 3% ต่อปี, กำไรปี 67-68 เติบโต และคาดการณ์เม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์เมื่อเทียบกับมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยมากกว่า 1 เท่า ซึ่งจะได้ 4 หุ้นเด่นรอบนี้ ได้แก่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP, บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO, บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN และ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL