ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์ “วายุภักษ์” รองรับขายนักลงทุนทั่วไป เสริมการออม-ขับเคลื่อนตลาดหุ้น

สำนักงาน ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์กองทุนรวม “วายุภักษ์” รองรับเสนอขายผู้ลงทุนทั่วไป เพื่อส่งเสริมการออมและการลงทุน พร้อมขับเคลื่อนตลาดทุนไทย


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี ในการประชุมเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 ได้มีมติรับทราบการเสนอขายหน่วยลงทุนของ กองทุนรวมวายุภักษ์ ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ เพื่อส่งเสริมการออมและการลงทุนให้กับประชาชนในระยะยาว และเพื่อพัฒนาตลาดทุนของประเทศโดยสร้างกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพิงเงินลงทุนต่างประเทศนั้น

โดยกองทุนรวมวายุภักษ์ มีแผนที่จะเสนอขายหน่วยลงทุนแก่ผู้ลงทุนทั่วไป (ผู้ถือหน่วยลงทุน ก.) ประมาณ 100,000 – 150,000 ล้านบาท และจะนำหน่วยลงทุนดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยผู้ถือหน่วยลงทุน ก. จะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผลไม่น้อยกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำและไม่เกินกว่าเพดานผลตอบแทนขั้นสูงตามที่กำหนดตลอดระยะเวลา 10 ปี นอกจากนี้ ในกรณีที่มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนลดลง ผู้ถือหน่วยลงทุน ก. มีสิทธิได้รับผลตอบแทนก่อนผู้ถือหน่วยลงทุน ข. (กระทรวงการคลังและนักลงทุนภาครัฐ)

ทั้งนี้ ก.ล.ต. จึงปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่ใช้สำหรับกองทุนรวมวายุภักษ์ ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้

1.) การอนุญาตให้กำหนดราคาขายหน่วยลงทุน ก. ตามมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาทต่อหน่วย) ได้นอกเหนือจากการขายตามมูลค่าทรัพย์สินต่อหน่วย
2.) การกำหนดเกณฑ์อัตราส่วนการลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์เป็นการเฉพาะและขยายระยะเวลาผ่อนผันการลงทุนเกินเกณฑ์อัตราส่วนการลงทุนที่มิได้เกิดจากการลงทุนเพิ่มเป็น 10 ปี นับตั้งแต่วันที่หน่วยลงทุน ก. ซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ

3.) การอนุญาตให้กระทรวงการคลังชำระค่าซื้อหน่วยลงทุนเป็นหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น (pay-in-kind) ได้ตามที่สำนักงานกองทุนรวมวายุภักษ์และบริษัทจัดการลงทุนขอมา ทั้งนี้ ประกาศที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงเกณฑ์กองทุนรวมวายุภักษ์มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2567

Back to top button