โบรกแนะ “ซื้อ” RS เป้า 7.50 บ. ครึ่งปีหลังธุรกิจ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์” รับไฮซีซั่น

RS โบรกมองครึ่งปีหลังฟื้นตัว รับอานิสงส์ไฮซีซั่นธุรกิจ “Entertainment” หนุนยอดขายลิขสิทธิ์-คอนเทนต์เพิ่มขึ้น คาดปี 67 พลิกมีกำไร 148 ล้านบาท แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 68 ที่ 7.50 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ วันนี้ (9 ก.ย.67) ประเมินทิศทางโครงสร้างธุรกิจของ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS หลังเข้าประชุมกับผู้บริหาร RS GROUP ซึ่งกำลังดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กร และ จัดกลุ่มธุรกิจปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นไปอย่างรวดเร็วและชัดเจนมาก โดยเห็นพัฒนาการว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความน่าสนใจและน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ RS GROUP ยังคงเป็นองค์กรที่มีความโดดเด่นในการปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ของการดำเนินธุรกิจอย่างรวดเร็วและทำได้ดี

โดยบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์แผนธรกิจและโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่เพื่อขยายโอกาสการเติบโตทางธุรกิจใหม่ ผ่านการดำเนิน 3 กลุ่มยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.RESTRUCTURE หรือ การปรับโครงสร้างทีมบริหารรุ่นใหม่เพื่อให้ทันกับกระแสและเทคโนโลยี ใหม่ๆ ที่กำลังจะเปลี่ยนไป

2.REDUCE คือ การลดและควบคุมต้นทุนอย่างเคร่งครัดและทันทีในระดับองค์กร และ 3. REFOCUS ผ่านการปรับกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจใหม่ทั้งหมดแบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ Products, Music & Entertainment และ RSX โดย RSX จะประกอบไปด้วยธุรกิจใหม่ ได้แก่ ธุรกิจ Pet Experiential Retail, ธุรกิจ New Education, ธุรกิจ MCN และ อื่นๆ โดยจะมีการร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ

ส่วนแนวโน้มผลการดําเนินงานครึ่งหลังปี 2567 ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวขึ้นจากทั้งการผลักดันยอดขายธุรกิจ Entertainment ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลัก โดยมีการเร่งสร้างรายได้การขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากทั้งลูกค้าต่างประเทศ และ OTT Platform อาทิ VIU, iQIYI, TRUE ID เพิ่มขึ้นจากระดับ 40 ล้านบาทต่อไตรมาส เป็นรายได้ระดับ 80-100 ล้านบาทต่อไตรมาส และการขายลิขสิทธิ์อื่นที่จะเป็น One-time Gain คาดการณ์ว่าจะมีกําไรราว 300 ล้านบาท ส่งผลให้ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ปี 2567 จะพลิกกลับมามีกําไรอยู่ที่ 148 ล้านบาท

ส่วนในปี 2568 คาดการณ์กําไรอยู่ที่ 126 ล้านบาท จากธุรกิจ Entertainment ที่คาดการณ์ว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากที่มีรัฐบาลใหม่ รวมถึงการบริโภคและใช้จ่ายในประเทศน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นส่งผลดีต่อเม็ดเงินโฆษณาที่น่าจะเพิ่มขึ้นและการต่อยอดในธุรกิจ Entertainmerce

โดยฝ่ายนักวิเคราะห์ประเมินราคาเป้าหมายปี 2568 อยู่ที่ 7.50 บาท โดยมองว่ามูลค่าลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ที่บริษัทถืออยู่นั้นมีมูลค่ากว่า 4.6 พันล้านบาท หรือกว่า 2 บาทต่อหุ้น ซึ่งบริษัทสามารถต่อยอดสร้างรายได้ผ่าน Platform ต่างๆ ทั้ง offline, online ที่บริษัทมี รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ ที่จะช่วย Monetize ลิขสิทธิ์ต่างๆ ที่บริษัทถืออยู่

Back to top button