ตลาดหลักทรัพย์ฯรับ PCE เข้าเทรด SET วันแรกพรุ่งนี้ ราคาไอพีโอ 2.28 บาท

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้อนรับ PCE พร้อมซื้อขายในตลาด SET วันที่ 12 ก.ย. นี้ ในราคาหุ้นละ 2.28 บาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 6,270 ล้านบาท


นายอำนวย จิรมหาโภคา ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์ 1 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับบริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PCE เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดธุรกิจการเกษตร โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “PCE” ในวันที่ 12 กันยายน 2567

โดย PCE ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ในธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจร แบ่งเป็น 1) กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม น้ำมันไบโอดีเซล และน้ำมันปาล์มโอเลอีนเพื่อการบริโภค รวมถึงการซื้อและจำหน่ายต่อของน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้กับลูกค้าทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ 2) กลุ่มธุรกิจให้บริการคลังสินค้าและท่าเทียบเรือ 3) กลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางรถ และ 4) กลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ

ทั้งนี้ PCE มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลัง IPO 2,750 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวนรวม 750 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย ผู้มีอุปการคุณของบริษัทและบริษัทย่อย และนักลงทุนสถาบันและบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ในระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม และ 2-6 กันยายน 2567 ในราคาหุ้นละ 2.28 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,710 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 6,270 ล้านบาท

โดยราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (PE ratio) เท่ากับ 18.94 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2566 – 30 มิ.ย. 2567 ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 331.22 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญหลังเสนอขาย คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.12 บาทต่อหุ้น โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์และรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ

นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PCE เปิดเผยว่า การระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับบริษัท โดย PCE จะนำเงินไปใช้ลงทุนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ เครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อขยายกำลังการผลิต ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เพื่อต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม PCE  โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ กลุ่มครอบครัวประสิทธิ์ศุภผล ถือหุ้นรวม 72.73% โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับกระแสเงินสด แผนการลงทุน เงื่อนไขทางกฎหมาย และปัจจัยอื่นๆ ในอนาคต

สำหรับผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.pce-th.com และที่ www.set.or.th

Back to top button