KTB พร้อมเปิดจอง “กองทุนรวมวายุภักษ์ 1” ทั่วประเทศ 16-20 ก.ย.นี้
KTB พร้อมเปิดจอง “กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” ผ่าน Krungthai NEXT และสาขากรุงไทยทั่วประเทศ 16-20 ก.ย.นี้ การันตีผลตอบแทน 3-9% ต่อปี
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลัง มีนโยบายเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง โดยเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. แก่ผู้ลงทุนทั่วไปมูลค่า 100,000–150,000 ล้านบาท ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทางการเงิน ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มในทุกมิติ สนับสนุนการออมและการลงทุน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง หน่วยลงทุนประเภท ก. เตรียมเปิดให้ลูกค้าประชาชนจองซื้อหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง
ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทย เข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์มั่นคง พลิกเงินลงทุนให้งอกเงย โดยเปิดจองซื้อผ่าน 2 ช่องทางคือ จองซื้อผ่านช่องทางสาขา ของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ และจองซื้อออนไลน์ผ่าน Money Connect บนแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ของวันที่ 16 กันยายน ถึง เวลา 16.00 น. ของ วันที่ 20 กันยายนนี้
สำหรับกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง (VAYU 1) เสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. แก่ผู้ลงทุนทั่วไป เพื่อเป็นทางเลือก ในการออมให้กับประชาชน และโอกาสรับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอตลอดระยะเวลาลงทุน ระยะเวลาลงทุนเบื้องต้น 10 ปี ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วย รวมประมาณ 100,000-150,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย ที่มีถิ่นที่อยู่ในไทยและมีอายุไม่น้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย หรือกองทุนส่วนบุคคลของผู้ลงทุนรายย่อย สัดส่วนเสนอขาย 30,000-50,000 ล้านบาท และกลุ่มที่ 2 ผู้ลงทุนสถาบันและนิติบุคคลเฉพาะกลุ่ม สัดส่วนเสนอขาย 100,000-120,000 ล้านบาท โดยบุคคลทั่วไปจองซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท (1,000 หน่วย) เพิ่มขึ้นครั้งละ 1,000 บาท (100 หน่วย) จัดสรรด้วยวิธี Small Lot First (ผู้จองซื้อที่จำนวนขั้นต่ำได้รับจัดสรรก่อน) โดยจะประกาศผลการจัดสรรภายในวันที่ 25 กันยายน 2567 ผ่าน www.settrade.com และคาดว่าจะนำหน่วยลงทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้
ส่วนกองทุนฯ มีนโยบายลงทุนแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ หลักทรัพย์สภาพคล่อง หลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และหลักทรัพย์อื่นๆ ที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยมีนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เฉพาะกรณี ที่กองทุนรวมมีกำไรของกองทุนรวม และ/หรือสำรองเงินปันผลตามอัตราผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริงของกองทุนรวม แต่ไม่ น้อยกว่าอัตราขั้นต่ำที่กำหนดไว้ร้อยละ 3 ต่อปี และไม่เกินอัตราขั้นสูงที่กำหนดไว้ร้อยละ 9 ต่อปี โดยคำนวณ จากราคา พาร์ที่ 10 บาทต่อหน่วย ซึ่งกำหนดเป็นอัตราคงที่ตลอด 10 ปี
อย่างไรก็ดี กองทุนรวมฯ ไม่มีผู้รับประกันหรือค้ำประกันเงินลงทุน หากมูลค่าทรัพย์สินที่กองทุนรวมเข้าไป ลงทุน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับตัวลงอย่างรุนแรง อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อมูลค่าทรัพย์สิน สุทธิของกองทุนรวมจนทำให้กลไกในการคุ้มครองเงินลงทุนไม่เพียงพอที่จะรองรับผลประทบเชิงลบดังกล่าวและทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. อาจไม่ได้รับเงินต้นคืนบางส่วนหรือทั้งหมด นอกจากนี้ กองทุนรวมไม่มีผู้รับประกันหรือค้ำประกัน ผลตอบแทน โดยในกรณีที่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่ส่งผลทำให้กำไรของกองทุนรวม และสำรองเงินปันผลของกองทุนรวม ลดลง จนไม่เพียงพอที่จะจ่ายเงินปันผล ในอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก.ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจได้รับ เงินปันผลจริงในอัตราที่ต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำร้อยละ 3 ต่อปี หรืออาจไม่ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนเลย ในกรณีที่กำไรของกองทุนรวม และสำรองเงินปันผลของกองทุนรวมหมดไป
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุนฯ มี นโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจบริษัทจัดการ ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือ ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ และกองทุนฯนี้ ไม่ใช่กองทุนรวมมีประกันเงินลงทุนและผลตอบแทน สามารถ ดาวน์โหลดหนังสือชี้ชวนเพื่อศึกษารายละเอียดก่อนทำการจองซื้อหน่วยลงทุนจากเว็ปไซต์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ www.sec.or.th หรือเว็ปไซต์บริษัทจัดการที่ www.ktam.co.th และ www.mfcfund.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Krungthai Contact Center 02-111-1111