CGSI มอง SET ผันผวนกรอบ 1,405–1,450 จุด ชู 2 หุ้นเด่น “KBANK- CENTEL”

“บล. ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล” ประเมินกรอบ SET วันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,410–1,435 จุด มีโอกาสผันผวนพร้อมคัด 2 หุ้นแนะนำ ได้แก่ KBANK-CENTEL


บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI คาดการณ์ว่า ดัชนีหลักทั้ง 3 ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (13 ก.ย.) ที่ผ่านมา ปิดแดนบวกกว่า 0.5–0.7% โดยเฉพาะดัชนีหุ้นขนาดเล็ก Russell2000 เพิ่มขึ้น2.5% ที่มีการพึ่งพาเงินกู้และสินเชื่อดอกเบี้ยลอยตัว หลังรายงานของ CME FedWatch ระบุว่าตลาดให้น้ำหนักมากขึ้นจาก 28% เป็น 49% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% สู่ระดับ 5% ในการประชุมวันอังคารนี้ (17-18 ก.ย.) อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยและตลาดมองว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25%

โดยสัปดาห์นี้ให้ติดตามอัตราเงินเฟ้อยูโรโซนเดือนส.ค. ในวันพุธที่ 18 ก.ย. 67 รวมทั้งการประชุม BOJ ในวันศุกร์ที่ 20 ก.ย.67 โดยตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% และมีโอกาสจะปรับขึ้นในการประชุมเดือนธ.ค. อีกทั้งการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของอินโดนีเซีย ในวันพุธที่ 18 ก.ย. 67 โดยตลาดคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 6.25% และตัวเลขการค้าเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน ของอินโดนีเซียในวันอังคารที่ 17 ก.ย.67 และมาเลเซียในวันพฤหัสบดีที่ 19 ก.ย.67

ทั้งนี้คาดว่า SET Index สัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวบริเวณ 1,405 – 1,450 จุด ระมัดระวังความผันผวน จากการประชุมนโยบายการเงินเพื่อพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันที่ 17-18 ก.ย.67

สำหรับความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างโครงการดิจิทัลวอลเล็ตโดยเปิดให้ลงทะเบียนผ่านสมาร์ตโฟนเมื่อวาน (15 ก.ย.) เป็นวันสุดท้าย โดยการแจกเงินเฟสแรกสำหรับกลุ่มผู้เปราะบาง 14.5 ล้านคน กำหนดการโอนเงินจะเริ่มวันแรก 25 ก.ย. ในขณะที่การเดินหน้าเฟส 2 ด้วยงบจากงบประมาณปี 2025 วงเงิน 1.8 แสนล้านบาท จะขึ้นอยู่กับความพร้อมของแพลตฟอร์มดิจิตัลที่เชื่อมต่อระบบ ซึ่งคาดว่าจะไม่ทันในปีนี้

โดยแนวโน้มการจ่ายเงินในรูปแบบเงินสดสำหรับเฟส 2 นั้นมีสูงขึ้น และ อาจจำกัดการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะธุรกิจกลุ่มค้าปลีก เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมจุดประสงค์การใช้จ่ายได้ โดยประชาชนอาจใช้เงินสดเพื่อชำระหนี้ หรือ ซื้อสลากกินแบ่ง แทนการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค นอกจากนี้ แม้ว่าการแจกเงินเฟสแรกจะเป็นประโยชน์ต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีกอย่าง CPALL และ CPAXT แต่ความล่าช้าสำหรับเฟส 2 อาจส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อหุ้นที่ได้รับแรงสนับสนุนจากโครงการนี้เช่นกัน

ด้านสถานการณ์น้ำท่วมที่ฉุดเศรษฐกิจในภาคเหนือซึ่งครอบคลุม 12 จังหวัด โดยเฉพาะเชียงรายที่วิกฤตจากน้ำท่วมเฉียบพลัน และ สร้างความเสียหายเบื้องต้น ตลาดชุมชนเศรษฐกิจได้รับผลกระทบ 2 แห่ง ร้านค้าและสถานประกอบการ 92 แห่ง ราษฎร 52,688 ครัวเรือน พื้นที่เกษตร 13,877 ไร่ อีกทั้งมวลน้ำแม่สายเตรียมไหลลงแม่น้ำโขง เข้าสู่ภาคอีสาน 7 จังหวัด ซึ่งล่าสุด น้ำในแม่น้ำโขงอยู่ในระดับวิกฤต และส่งผลให้น้ำท่วมที่หนองคาย ประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 3,000 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรกว่าหมื่นไร่ โดยคาดว่าผลผลิตทางการเกษตรจะได้รับความเสียหายหมด

อย่างไรก็ตาม สทนช. และ กรมชลฯ คาดว่าจะไม่กระทบภาคกลางและกทม. ซึ่งสัปดาห์นี้ติดตามรายงานเงินสำรองรวมระหว่างประเทศของไทยในวันศุกร์ที่ 20 ก.ย.67 และทิศทางเงินทุนต่างชาติที่ส่งผลต่อค่าเงินบาทไทย รวมถึงการประชุมครม. นัดแรกในวันที่อังคารที่ 17 ก.ย. 67

ส่วนหุ้นแนะนำ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เป็น Top pick ในกลุ่มแบงก์ เนื่องจากมีการขาย NPL และกลยุทธ์การจัดการในเชิงรุกมากที่สุดในกลุ่มธนาคารไทยที่เราทำการศึกษา ซึ่งน่าจะทำให้ KBANK มีอัตราการสำรองหนี้สูญลดลงในปี 2568-2569 และส่งผลให้ EPS เติบโตแข็งแกร่งในอัตรา 9.5-12.2% ในปี 2568-2569 (Take profit ที่ระดับ 159.50 บาท และ Stop loss ที่ระดับ 155.50 บาท)

บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL มีแผนเปิดโรงแรมใหม่ในมัลดีฟส์เป็นแห่งที่ 3 วันที่ 1 พ.ย. 2567 และแห่งที่ 4 ในเดือนก.พ. 2568 คาดว่า CENTEL จะทำกำไรสุทธิ 163 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน แต่ลดลง 3% จากไตรมาสก่อนในไตรมาส 3/2567 โดยเชื่อว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของมัลดีฟส์ยังแข็งแกร่ง (Take profit ที่ระดับ 39.50 บาท / Stop loss ที่ระดับ 36.25 บาท

Back to top button