คลังเลื่อนเปิดลงทะเบียน “ดิจิทัลวอลเล็ต” ผ่านแอปทางรัฐ โบรกมองบวกกลุ่ม “Domestic”
โบรกมองรมช. คลัง ประกาศเลื่อนแจ้งรับสิทธิ์เงินดิจิทัล 10,000 บาทบนแอฟพลิเคชั่นทางรัฐ มีมุมมองบวกต่อกลุ่ม Domestic อย่างหุ้นค้าปลีก-ธนาคาร-เช่าซื้อ ได้แก่ CPALL-CPAXT-BJC-KBANK-BBL-MTC-JMT
ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังขอเลื่อนการเปิดลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต สำหรับคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ผ่าน 3 ธนาคารรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารอาคาร สงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มเปิด 16 ก.ย.67 ออกไปก่อน สำหรับกลุ่มเปราะบาง ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดเลื่อนไปเป็นวันไหน แต่อาจจะครึ่งเดือน หรือ 1 เดือน
สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐไปแล้ว ในเฟส 2 ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะดำเนินการต่อแน่นอน เพราะตอนนี้เตรียมงบประมาณปี 68 ไว้แล้ว 180,000 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอที่จะดำเนินโครงการฯ จึงไม่มีอะไรต้องน่าห่วง ขณะที่การจ่ายเงินเฟส 2 จะจ่ายแบบทีเดียว 10,000 บาท หรือจะแบ่งจ่ายเงินสดและดิจิทัลครั้งละ 5,000 บาทนั้น ต้องขอดูยอดหลังปิดลงทะเบียนทั้งโครงการให้ชัดก่อน แต่สุดท้ายรัฐบาลก็จะดำเนินการให้ได้ครบทุกคน
สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตผ่านแอพพลิเคชั่นทางรัฐจะนับเป็นเฟส 2 ซึ่งรัฐบาลยืนยันจะดำเนินการต่อ และได้เตรียมงบประมาณปี 2568 ไว้แล้ว 1.8 แสนล้านบาท ส่วนวิธีการแจกเงินเฟส 2 นั้นอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะจ่ายแบบทีเดียว 10,000 บาท หรือจะแบ่งจ่ายเงินสด และดิจิทัลครั้งละ 5,000 บาท
สอดคล้องกับฝ่ายนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ว่า รมช. คลัง ประกาศเลื่อนแจ้งรับสิทธิ์ “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” เผยล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐวันสุดท้ายแล้วกว่า 33 ล้านราย แต่การประกาศชื่อผู้มีสิทธิ์จะเลื่อนจากเดิมที่กำหนดไว้วันที่ 22 ก.ย.67
ขณะที่การลงทะเบียนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน จะเลื่อนออกไปเช่นกัน โดยจากเดิมตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.-15 ต.ค.67 เพื่อจะเป็นการบริหารจัดการในส่วนการให้สิทธิ์กับกลุ่มเปราะบางและผู้พิการจำนวน 14.5 ล้านคนให้เรียบร้อยก่อน โดยจะโอนเข้าสู่ระบบพร้อมเพย์ตามหมายเลขบัตรประชาชนระหว่างวันที่ 25-30 ก.ย.67 ส่วนการแจกเงินดิจิทัลในเฟส 2 ยังคงมีความไม่แน่นอน และทางฝ่ายวิจัยมองความชัดเจนน่าจะเพิ่มขึ้นหลัง ครม. ใหม่อนุมัติโครงการสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ดี ความคืบหน้าดังกล่าวโดยรวมข้างต้น ยังมีมุมมองบวกต่อกลุ่ม Domestic ที่จะได้ประโยชน์อย่างหุ้นค้าปลีก บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC
นอกจากนี้มีหุ้นธนาคาร คือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL
อีกทั้งหุ้นเช่าซื้อ คือ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC, บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT