RS รับทรัพย์ 605 ล้าน ปิดดีลขาย “RS UMG” ให้ “ยูนิเวอร์แซล มิวสิค” ต่อยอดธุรกิจเพลง
บอร์ด RS ไฟเขียว “อาร์เอส มิวสิค” ขายบริษัทร่วมทุน “อาร์ เอส ยู เอ็ม จี” สัดส่วน 30% ให้ Universal Music รับเงิน 605.10 ล้านบาท พร้อมนำเงินลุยขยายธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตของผลประกอบการในระยะยาวของกลุ่มบริษัท
นายวิทวัส เวชชบุษกร กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท อาร์เอส มิวสิค จํากัด (RS MUSIC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนที่ชําระแล้วจําหน่ายหุ้น สามัญที่ถืออยู่ทั้งหมดของบริษัท อาร์ เอส ยู เอ็ม จี จํากัด (RS UMG) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบริษัทฯในสัดส่วนร้อยละ 30 ของทุนจดทะเบียนที่ชําระแล้วทั้งหมด ให้แก่ Universal Music Group หรือบริษัทภายในกลุ่มของ Universal Music Group (ผู้ซื้อ) โดยมีมูลค่าซื้อขายทั้งสิ้นเท่ากับ 605.10 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทฯอาจได้รับค่าตอบแทนเพิ่มเติมจากผู้ซื้ออีกจำนวนไม่เกิน 69.21 ล้านบาท ตามเงื่อนไขที่คู่สัญญาจะได้ตกลงกันต่อไป (ธุรกรรมการจําหน่ายไปซึ่งเงินลงทุนในบริษัทร่วม) และอนุมัติการเข้าทำสัญญาที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการจําหน่ายไปซึ่งเงินลงทุนในบริษัทร่วม แบบมีเงื่อนไขบังคับก่อน (“สัญญาที่ เกี่ยวข้องกับธุรกรรม”) ทั้งนี้ภายหลังธุรกรรมการจําหน่ายไปซึ่งเงินลงทุนในบริษัทร่วม RS UMG จะสิ้นสภาพการเป็นบริษัทร่วมของบริษัทฯ
สำหรับผลประโยชน์ที่บริษัทคาดว่าจะเกิดจากธุรกรรมคือบริษัทฯจะได้รับเงินสดเพื่อใช้ขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯซึ่งช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขัน และสร้างการเติบโตของผลประกอบการในระยะยาวของบริษัทฯ และส่งเสริมสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทฯในขณะที่ยังคงรักษาความสัมพันธ์กับพันธมิตรที่แข็งแกร่งทางธุรกิจ รวมถึงได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการรบริหารจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลงภายในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทฯจะได้มุ่งมั่นพัฒนาคอนเทนต์ เพื่อใช้ประโยชน์จากจุดแข็งในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Universal Music Group เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้จากช่องทางออนไลน์
โดยบริษัทมีแผนการใช้เงินจากการจําหน่ายไปซึ่งหุ้นสามัญใน RS UMG ไปใช้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องเป็น ทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯชําระหนี้สิน รวมถึงเป็นแหล่งเงินทุนในการขยายธุรกิจของบริษัทฯไปยังธุรกิจอื่นๆ ที่มีศักยภาพต่อไปในอนาคต