โบรกชี้ หาก “เฟด” หั่นดอกเบี้ย 0.50% สร้างแรงกดดัน “กนง.” ประชุม ต.ค.นี้!

บล.เอเซีย พลัส ชี้นักลงทุนรอดู “เฟด” ลงดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.5% อาจทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่อเนื่องให้เงินบาทแข็งค่า พร้อม FUND FLOW มีโอกาสไหลเข้าตลาดการเงินไทยต่อ และในอีกทางหนึ่งก็อาจสร้างแรงกดดันให้ กนง. ที่จะประชุมเดือน ต.ค.67 มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลง


บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินจาก FEDWATCH TOOL ที่แสดงความน่าจะเป็น 63% คาดว่า “เฟด” จะปรับลดอกเบี้ย 0.50% และหากมีการปรับลด 0.50% จริง ก็มีโอกาสที่จะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่อเนื่องให้เงินบาทแข็งค่า และ FUND FLOW มีโอกาสไหลเข้าตลาดการเงินบ้านเราต่อ และในอีกทางหนึ่งก็อาจสร้างแรงกดดันให้ กนง. ที่จะประชุมเดือน ต.ค.67 มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลงไปได้

โดยภาพรวมถือว่าเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทย ส่วนประเด็นอื่นที่อยู่ในความสนใจ เป็นเรื่องนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งวานนี้มี ครม. เห็นชอบการอัดฉีดเม็ดเงิน 10000 บาท ให้กับกลุ่มเปราะบาง คิดเป็นเม็ดเงินรวม 1.45 แสนล้านบาท พร้อมมีการจัดตั้งบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ มาขับเคลื่อนมาตรการ ส่วนการเติบโต GDP ปี2567 กระทรวงการคลังคาดอยู่ที่ 3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นไปได้ที่การเคลื่อนไหวของ SET INDEX วันนี้อาจเป็นการผันผวนในกรอบแคบ รอดูผลประชุม FED ส่วนระยะต่อไปเชื่อว่ายังอยู่ในขาขึ้น วันนี้คาดกรอบ 1,426 – 1,440 จุด  ส่วน TOP PICK เลือก ADVANC, AOT และ AP

ส่วนวานนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ สหรัฐฯ ชุดล่าสุดออกมา ทั้งยอด RETAIL SALESและ INDUTIAL PRODUCTION ยังสูงกว่าคาด ซึ่งยังไม่ได้สะท้อนเศรษฐกิจชะลอตัวลงแรงอย่างมีนัยฯ

อย่างไรก็ตามคืนนี้ประมาณตี 1 (ตามเวลาประทศไทย) รอติดตามการประชุม FED ครั้งที่ 6/2567 ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี ขณะที่ FEDWATCH TOOL แสดงความน่าจะเป็น 63% ที่มองว่า FED จะปรับลดดอกเบี้ยแรง 0.50% ส่วน CONSENSUS คาด FED ลดดอกเบี้ยครั้งนี้ที่ 0.25%

สำหรับในกรณีที่ FED เร่งปรับลดดอกเบี้ยลงเร็วและแรง อาจตามมาด้วยความเสี่ยงในการเกิดเศรษฐกิจ RECESSION ในสหรัฐฯ โดยจากสถิติในอดีต รอบการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในอัตรา 0.50% และหลังจากนั้น 6 เดือน ดอกเบี้ยร่วงลงแรงอย่างรวดเร็ว มักจะตามมาด้วยเศรษฐกิจชะลอตัวแบบ HARD LANDING แต่ในทางกลับกันหากดอกเบี้ยปรับลดลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ สะท้อน FED ทำSOFT LANDING สำเร็จ

ทั้งนี้ การทยอยปรับลดดอกเบี้ยในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว บวกกับเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็ว (แม้จะเป็นผลดีต่อการเรียกความเชื่อมั่นในตลาดการเงิน แต่ในเชิงเศรษฐกิจมักกระทบภาคส่งออก) เป็นปัจจัยหนุนให้บ้านเรามีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปรับลดดอกเบี้ย เพิ่มคาดหวังว่าจะเห็น กนง. ปรับลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้ง ราว 0.25%

สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้ สะท้อนตาม BOND YIELD ไทยอายุ 10 ปี ลดลงมาแตะ 2.50% ครั้งแรก ในรอบ 4 เดือน

อย่างไรก็ตาม คืนนี้ตี 1 ตามเวลาประทศไทย รอติดตามการประชุม FED ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยในกรณีที่มีการลดดอกเบี้ยลงแรงและเร็ว อาจส่งสัญญาเศรษฐกิจชะลอตัวแบบ HARD LANDING แต่ถ้าดอกเบี้ยลดลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ สะท้อน FED ทำ SOFT LANDING สำเร็จ

Back to top button