“เฟด” ลดดอกเบี้ย 0.50% ในรอบ 4 ปี มอง GDP สหรัฐโตเหลือ 2%
ธนาคารกลางสหรัฐ ประกาศลดดอกเบี้ยลง 0.50% คาดการณ์ตัวเลข GDP สหรัฐลงเหลือ 2% ในทุกๆ ปี ตั้งแต่ปี 2567- 2570 ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบเล็กน้อย ขณะที่ทองคำก็ขยับขึ้นเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงาน (19 ก.ย.67) ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงลง 0.50% เมื่อวันพุธที่ 18 ก.ย. 67 ถือเป็นการเริ่มต้นวัฎจักรของการลดดอกเบี้ยอย่าง “เข้มข้น” โดยการลดดอกเบี้ยถึง “ครึ่งเปอร์เซนต์” แทนที่การลดดอกเบี้ย 0.25% ตามปกติ เป็นไปตามที่ fedwatchtool ประเมินไว้ก่อนการประชุมว่า มีโอกาสถึง 63% ที่ เฟด จะลด 0.50% มากกว่า 0.25%
ขณะที่ผลการคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐในระยะยาว (Dot Plot) แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ 10 คนจาก 19 คน “สนับสนุนให้ลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.5% ในการประชุมอีก 2 ครั้งที่เหลือของปี 67”
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวม 1.00% ในปี 2568 และลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในปี 2569
โดยรวมแล้ว Dot Plot บ่งชี้ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2.00% หลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันนี้
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ลงมติ 11 ต่อ 1 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 4.75% – 5.0% หลังจากคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษมาเป็นเวลากว่า 1 ปี
การเคลื่อนไหวที่เด็ดขาดเมื่อวันพุธเน้นย้ำถึง “ความกังวลที่เพิ่มมากขึ้น” ของผู้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับทิศทางตลาดการจ้างงานของสหรัฐ
เฟดระบุในแถลงการณ์ว่า “คณะกรรมการมีความมั่นใจมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อจะเคลื่อนตัวไปสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน และเห็นว่าความเสี่ยงในการบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สมดุล” และเสริมว่าเจ้าหน้าที่ “มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนการจ้างงานสูงสุด” นอกเหนือจากการผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้กลับไปสู่เป้าหมาย
ทั้งนี้ เฟดลดดอกเบี้ยครั้งล่าสุดคือในปี 2563 ซึ่งลดไป 0.50% เมื่อวันที่ 3 มี.ค. และอีก 1.00% ในวันที่ 15 มี.ค.67 โดยถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0-0.25% ยาวต่อเนื่องจนเข้าสู่วัฎจักรการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2565-2566
นอกจากการปรับลดดอกเบี้ยแล้ว เฟดได้ “ปรับลด” คาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2567 ลงเหลือ 2% โดยประมาณการว่าจีดีพีสหรัฐจะโตได้ระดับ 2.0% ในทุกๆ ปี ตั้งแต่ปี 2567- 2570 หลังจากก่อนหน้านี้เคยคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่า จะมีการขยายตัว 2.1%, 2.0% และ 2.0% ในปี 2567, 2568 และ 2569 ตามลำดับ
นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับคาดการณ์การว่างงานในปีนี้ “เพิ่มขึ้น” จาก 4.0% เป็น 4.4%
เฟดปรับตัวเลขคาดการณ์อัตราว่างงานในช่วง 4 ปีนี้ ตั้งแต่ปี 2567 – 2570 อยู่ที่ระดับ 4.4%, 4.4% และ 4.3% และ 4.2% ตามลำดับ หลังจากคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.0%, 4.2% และ 4.1% ในปี 2567, 2568 และ 2569 ตามลำดับ ส่วนอัตราว่างงานระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 4.2%
ขณะเดียวกัน เฟดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปี 2567- 2570 อยู่ที่ระดับ 2.6%, 2.2%, 2.0% และ 2.0% ตามลำดับ “ลดลง” หลังจากคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่าจะอยู่ที่ระดับ 2.8%, 2.3% และ 2.0% ในปี 2567, 2568 และ 2569 ตามลำดับ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบเล็กน้อยในวันพุธ (18 ก.ย.) หลังเฟดแถลงปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ยุติข่าวลือที่มีมานานหลายวันเกี่ยวกับขนาดของความเคลื่อนไหวปรับลดในครั้งนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 103.08 จุด (0.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 41,503.10 เอสแอนด์พี ลดลง 16.32 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,618.26 จุด แนสแดค ลดลง 54.76 จุด (0.31 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,573.30 จุด
ส่วนราคาทองคำปิดบวกในวันพุธ (18 ก.ย.67) หลังจากเฟดแถลงปรับลดดอกเบี้ยเชิงรุก 0.50% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 6.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,598.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์