SEI ปิดจ๊อบขาย IPO เกลี้ยง 50 ล้านหุ้น จ่อเทรด mai 24 ก.ย.นี้

SEI ขาย IPO หมดเกลี้ยง 50 ล้านหุ้น ตอกย้ำเป็นธุรกิจเมกะเทรนด์ทางการแพทย์ เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 24 ก.ย.นี้


นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดการ การจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ SEI เปิดเผยว่า หลังจากเปิดเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 50 ล้านหุ้น คิดเป็น 29.41% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ระหว่างวันที่ 16-18 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า หุ้น SEI ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนที่จองซื้อเข้ามาเต็มจำนวน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ และศักยภาพการเติบโตของ SEI ได้เป็นอย่างดี

ประกอบกับการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น ที่ระดับราคาหุ้นละ 3.10 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E ratio) เท่ากับ 19.64 เท่า ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม สอดคล้องกับภาวะตลาดในปัจจุบัน ที่สำคัญหุ้น SEI มีความน่าสนใจเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่บทวิเคราะห์ประเมินมูลค่าพื้นฐาน สะท้อนถึงโอกาสการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต และจากความสำเร็จในการเสนอขาย IPO ดังกล่าว ส่งผลให้ SEI มีความพร้อมเข้าซื้อขาย ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 24 ก.ย. 2567 นี้ ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค

ขณะที่ นายกานต์ ปุญญเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SEI เปิดเผยว่า ขอขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่นในศักยภาพและการเติบโตของบริษัทฯ จนทำให้แผนการเสนอขายหุ้น IPO ของ SEI ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักลงทุน สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตสู่การเป็นตัวแทนจำหน่ายและให้เช่าเครื่องมือทางการแพทย์ วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์แบบครบวงจรมากยิ่งขึ้นในอนาคต พร้อมทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของการเติบโตไปพร้อมกับ SEI

โดยภายหลังจากที่ได้เงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ จำนวน 155 ล้านบาท บริษัทฯ มีแผนในการนำเม็ดเงินไปขยายและต่อยอดธุรกิจในการเสริมศักยภาพการให้บริการลูกค้าตามเป้าหมายที่วางไว้ รวมถึงสั่งซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดสามารถทางการแข่งขัน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนนำเงินไปใช้ในโครงการร่วมลงทุนกับบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือทางการแพทย์ ที่เกี่ยวเนื่องกันกับการดำเนินงานของบริษัทฯ อันอาจรวมถึงคลินิกหรือโรงพยาบาลเฉพาะทาง สู่การสร้างศักยภาพทางการเงิน และสร้างโอกาสการขับเคลื่อนทางธุรกิจสู่การยกระดับการให้บริการเครื่องมือและนวัตกรรมทางการแพทย์ให้ครบวงจรในทุกมิติ ซึ่งสอดรับกับความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ เพื่อความเป็นหนึ่งในผู้นำทางด้านการจัดจำหน่ายและให้บริการทางด้านเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์วิทยาศาสตร์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า

ปัจจุบัน SEI ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ ภายใต้ตราสินค้าของผู้ผลิตทั้งหมด 18 ราย จาก 11 ประเทศ โดยได้จดทะเบียนสถานประกอบการนำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์ในประเทศไทย กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สังกัดกระทรวงสาธารณะสุข ซึ่งสามารถแบ่งเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ ที่บริษัทฯ จำหน่ายออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ (Endoscope) 2. กลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วย ทารกแรกเกิด (Neonatal Care) 3. กลุ่มสินค้าด้านความงาม (Aesthetic) 4.กลุ่มสินค้าด้านการผ่าตัด (Surgery) 5. กลุ่มสินค้าอุปกรณ์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ (Laboratory)

นอกจากนี้ ยังให้บริการ อาทิ บริการซ่อมบำรุงเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ (Maintenance Service) เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงจัดสอนวิธีการใช้งานเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ให้แก่ลูกค้า เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งานสินค้า ขณะเดียวกัน ยังให้บริการเช่าเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าที่มีงบประมาณในการซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ที่ค่อนข้างจำกัด

ด้านนายวรวัสส์ วัสสานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อวานการ์ด แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ SEI ว่า SEI เป็นหนึ่งในหุ้น IPO ที่น่าจับตา เนื่องจากถูกจัดเป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจเมกะเทรนด์ทางการแพทย์ และเป็นหุ้นประเภท Growth Stock ที่มีทิศทางการเติบโตตามแนวโน้มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการดูแลสุขภาพ อาทิ ความงาม ศูนย์แพทย์เฉพาะทาง และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุครบวงจร ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสขยายตัวได้สูง สอดคล้องกับธุรกิจ  SEI ที่ให้บริการเครื่องมือและนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ครบวงจรในทุกมิติ และด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของ SEI สามารถตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพการแข่งขันที่จะก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ชั้นนำของประเทศไทย ดังนั้นจึงมองว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ mai ครั้งนี้ จะช่วยให้ SEI มีแหล่งเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่งในอนาคต

Back to top button