MINT นำทีม ERW-CENTEL บวกคึก! โบรกชูท็อปพิก ลุ้นคืนชีพ “เราเที่ยวด้วยกัน”
ราคาหุ้น MINT-ERW-CENTEL วิ่งคึกคัก รับผลบวก “รมว.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา” มีแนวคิดฟื้นโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” กระตุ้นรายได้ท่องเที่ยว คาดหนุนรายได้โรงแรมในไทยปีนี้เพิ่มขึ้น โบรกฯ คาดส่งผลดีกับ MINT-ERW-CENTEL ชู MINT เป็นท็อปพิก ให้เป้าราคา 34 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.67) ณ เวลา 15:35 น. ราคาหุ้น บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW อยู่ที่ระดับ 4.38 บาท บวก 0.16 บาท หรือ 3.79% สูงสุดที่ระดับ 4.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.22 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 133.37 ล้านบาท
บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL อยู่ที่ระดับ 40.25 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 3.87% สูงสุดที่ระดับ 40.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 39.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 80.88 ล้านบาท
บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT อยู่ที่ระดับ 28.75 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.88% สูงสุดที่ระดับ 29.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 28.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 655.72 ล้านบาท
โดยราคาหุ้นกลุ่มโรงแรมปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างคึกคัก หลังวานนี้ (18 ก.ย.67) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา มีแนวคิดที่จะพิจารณารื้อฟื้นโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” หรือ “คนละครึ่ง” กลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อผลักดันท่องเที่ยวในไตรมาส 4/67 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่น โดยส่งเสริมมาตรการ หรือแคมเปญให้เกิดการสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการทุกระดับ ในการนัดหารือกับภาคเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาการท่องเที่ยวไทย และมั่นใจว่ารายได้จากการท่องเที่ยวปีนี้จะทะลุ 3.5 ล้านล้านบาท หากดูนักท่องเที่ยวต่างสะสมตั้งแต่ต้นปี (1 มกราคม ถึงวันที่ 15 กันยายน 2567) อยู่ที่ 24.8 ล้านคน
นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน MINT เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า MINT พร้อมรับการกลับมาของโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ร่วมกับการบริการและประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ที่โรงแรมในเครือไมเนอร์ มอบให้แก่นักท่องเที่ยว จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งของผลประกอบการของ MINT เพิ่มขึ้น เนื่องจากโครงการนี้จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
โดยในไตรมาสที่ 2/67 รายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) โรงแรมในเครือไมเนอร์ในไทย รายได้ต่อห้องพักที่มีให้บริการเติบโต 14% เมื่อเทียบกับปีก่อน และในเดือนก.ค.-ส.ค.67 มีการเติบโตต่อเนื่องมากกว่า 15% ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวก อีกทั้งยังสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 62 กว่า 20% แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของตลาดโรงแรมโดยในไตรมาส 2/67
ด้านฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ ERW เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ถึงกรณีที่ รมว.กระทรวงท่องเที่ยว มีแนวคิดนำโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” กลับมาขายอีกครั้งว่า เป็นเรื่องที่ดีมาก และจะส่งผลบวกต่อเครือข่ายโรงแรมโดยตรง สะท้อนจากการอ้างอิงตัวเลข “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟสที่ 5 ซึ่งสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับฐานรายได้การดำเนินธุรกิจแบบปกติ
สำหรับทิศทางของผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/67 ของ ERW คาดว่าภาพรวมยังอยู่ในระดับที่ดี แม้เป็นช่วง โลว์ซีซั่น เนื่องจากในช่วง 2 เดือนแรก (ก.ค.-ส.ค.) จำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่มาชะลอตัวลงในเดือนก.ย.67 และมั่นใจในไตรมาส 4/67 จะมีผลการดำเนินงานโดดเด่น เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น ดังนั้น ERW ยังคงเป้าหมายรายได้ปี 67 จะเติบโต 15% อัตราการเข้าพัก (OCC) อยู่ที่ 80-82% และมีราคาห้องพักเฉลี่ย (ADR) เติบโต 5-7% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ขณะที่นายกันย์ ศรีสมพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน และรองประธานฝ่ายการเงินและบริหารโรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทาราของ CENTEL เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ถึงกรณี รมว.กระทรวงท่องเที่ยว มีแนวคิดนำโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” กลับมาใช้อีกครั้งว่า มองเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ โดยอยากให้ประกาศใช้ได้เร็ว ยิ่งดี และอยากเสนอให้มีมาตรการที่ครอบคลุมทั่วทุกจังหวัด ไม่ใช่เพียงหัวเมืองหลักเท่านั้น คาดว่าจะสามารถสร้างฐานรายได้จากโครงการนี้เข้ามาเสริมกับฐานรายได้การดำเนินธุรกิจแบบปกติได้อย่างมาก
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/67 ของ CENTEL ธุรกิจโรงแรมน่าจะยังเติบโตได้ดี และธุรกิจร้านอาหารน่าจะทรงตัว หรือเติบโตในระดับต่ำ ขณะที่ทิศทางผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/67 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ โดยธุรกิจโรงแรม และธุรกิจร้านอาหารจะเติบโตอย่างโดดเด่น ดังนั้นคงเป้าหมายในปี 67 คาดการณ์อัตราการเข้าพักเฉลี่ย (รวมกิจการร่วมทุน) อยู่ที่ 70-73% คาดการณ์อัตราการเติบโตร้านอาหารจากสาขาเดิม (SSSG) อยู่ที่ 1-3% และอัตราการเติบโตของยอดขายรวมทุกสาขา (TSS) อยู่ที่ 4-6% เมื่อเทียบกับปีก่อน
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า “โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” หรือ “คนละครึ่ง” มีโอกาสนำมาพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการทุกระดับ จึงมีมุมมองเป็น Sentiment “บวก” ต่อกลุ่มท่องเที่ยว อย่างหุ้น CENTEL, ERW และ MINT
ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ได้กลับมามีอีกครั้งจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศให้เพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง อ้างอิงจากของเดิมที่รัฐบาลเคยให้สิทธิ์ คือ เฟสที่ 1 ที่ 5 ล้านสิทธิ์ เฟสที่ 2 ที่ 1 ล้านสิทธิ์ เฟสที่ 3 ที่ 2 ล้านสิทธิ์ เฟสที่ 4 ที่ 1.5 ล้านสิทธิ์ และเฟสที่ 5 ที่ 5 แสนสิทธิ์
โดยจะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลสูงสุด 3,600 บาท เป็นส่วนลดที่พัก 40% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน ใช้สิทธิได้ไม่เกิน 10 ห้องหรือคืนต่อคน และคูปองอิเล็กทรอนิกส์สำหรับจ่ายค่าอาหารและท่องเที่ยว มอบส่วนลด 40% สูงสุดไม่เกิน 600 บาท/ห้อง/วัน สำหรับค่าห้องพัก และวอยเชอร์ ดังนั้นหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จาก “เราเที่ยวด้วยกัน” เรียงจากมากไปน้อยตามสัดส่วนรายได้ในประเทศไทย ได้แก่ ERW 88%, CENTEL 80%, MINT 15% และ SHR 5% ตามลำดับ
นอกจากนี้ให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” โดยปัจจัยดังกล่าวข้างต้นจะเป็น sentiment เชิงบวกต่อ ERW และ CENTEL มากสุด โดยเลือกให้ MINT เป็น Top pick ของกลุ่มท่องเที่ยว โดยให้คำแนะนำ “ซื้อ” ให้เป้าราคา 34 บาท