บริษัทต่อเรือไททานิก ยื่นล้มละลาย หลังขาดเงินกู้หมุนเวียน 9 พันล้านบาท

"ฮาร์แลนด์แอนด์โวล์ฟ" ซึ่งเป็นบริษัทต่อเรือไททานิก ประกาศล้มละลาย หลังขาดเงินกู้หมุนเวียนกว่า 8,976 ล้านบาท เตรียมปลดพนักงานจำนวนมาก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฮาร์แลนด์แอนด์โวล์ฟ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Harland & Wolff Group Holdings Plc หรือ HARL บริษัทสัญชาติอังกฤษ มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงลอนดอน โดยมีที่ตั้งในเบลฟาสต์, อาร์นิช, แอปเปิลดอร์ และเมทิล ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1861 โดยดำเนินกิจการเป็นผู้ผลิตเรือเดินมหาสมุทร เรือเดินทะเล และเรือรบของกองทัพเรือแห่งสหรัฐราชอาณาจักรที่มีอายุมากถึง 163 ปี เปิดเผยว่า ได้ประกาศยื่นล้มละลายและเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยกระบวนการดังกล่าวจะเริ่มต้นภายใน 1-2 สัปดาห์นี้

สาเหตุที่บริษัทต้องประกาศล้มละลาย นำไปสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ และปรับโครงสร้างทางธุรกิจนั้น เกิดขึ้นจากบริษัทต่อเรือฮาร์แลนด์แอนด์โวล์ฟ ไม่สามารถกู้เงินหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องมูลค่า 200 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง กว่า 264 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 8,976 ล้านบาท จากธนาคารเพื่อการเงินและส่งออกแห่งสหราชอาณาจักร ทำให้สถานะทางการเงินและแนวโน้มในการดำเนินกิจการต่อไปต้องเผชิญกับความยากลำบากอย่างรุนแรง อีกทั้งมีความจำเป็นต้องตัดลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วยการเตรียมปลดพนักงานจำนวนมากในสายงานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแกนหลักของธุรกิจต่อเรือ รวมถึงบริษัทโฮลดิ้งซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัทต่อเรือฮาร์แลนด์แอนด์โวล์ฟ

โดยการประกาศล้มละลายในครั้งนี้ไม่ได้เป็นครั้งแรกเนื่องจากว่าในปี 2019 ที่ผ่านมา บริษัทต่อเรือฮาร์แลนด์แอนด์โวล์ฟเคยได้รับคำสั่งจากรัฐบาลอังกฤษในการนำบริษัทดังกล่าวเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานั้นบริษัทต่อเรือดังกล่าวได้ปฏิเสธแรงกดดันจากรัฐบาลอังกฤษเนื่องจากมีกลุ่มทุนชื่อว่าอินฟราสตราต้า แสดงความสนใจที่จะเข้าถือหุ้นร่วมลงทุนด้วย

ทั้งนี้ บริษัทต่อเรือฮาร์แลนด์แอนด์โวล์ฟ มีผลงานที่เป็นตำนานและเป็นประวัติศาสตร์ของโลกคือ การต่อเรือเดินมหาสมุทรที่มีชื่อว่า “ไททานิก” ซึ่งเป็นเรือเดินมหาสมุทรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และได้รับสมญานามว่าเป็นเรือเดินมหาสมุทรที่ไม่มีวันจม จนกระทั่งได้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมดำดิ่งลงใต้น้ำ เมื่อวันที่ 15 เมษายน ปี 1912 ภายในเวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมง 40 นาที จากการชนกับภูเขาน้ำแข็งเมื่อมันแล่นอยู่ห่างจากบอสตันไปทางตะวันออกราว 1,609 กิโลเมตร และนำลูกเรือและผู้โดยสารผู้โชคร้ายกว่า 1,500 ชีวิตไปสู่ความตาย (ส่วนผู้คนบนเรืออีก 706 คนนั้นรอดมาได้)

Back to top button