KKPS แนะ “ซื้อ” PTT เป้า 42.10 บาท ปรับกำไร NPAT ขึ้นแตะ 1.11 แสนล้าน

บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (20 ก.ย.67) ปรับเพิ่มกำไรหลังหักภาษี (NPAT) ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ขึ้น 2.20% เป็น 1.11 แสนล้านบาท จากผลประกอบการของบริษัทที่แข็งแกร่งในครึ่งแรกของปีนี้ โดยมี NPAT จากการดำเนินงานหลักอยู่ที่ 6.21 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 56% ของประมาณการใหม่ที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดไว้ ส่วน NPAT ในครึ่งแรกของปี 67 นั้นอยู่ที่ 6.44 หมื่นล้านบาทจากรายได้อื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์หั่นคาดการณ์ NPAT จากการดำเนินงานหลักในปี 68 ลง 4.20% มาอยู่ที่ 1.23 แสนล้านบาท จากคาดการณ์ราคาน้ำมัน และปิโตรเคมีที่อ่อนตัวลง โดยนักวิเคราะห์ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปี 68 ลงมาเฉลี่ยอยู่ที่ $75/bbl จากเดิมที่คาดไว้ $80 ในขณะที่ยังคงคาดการณ์ราคาของปี 69 ไว้ที่ $70

นอกจากนั้นแล้ว KKPS ยังหั่นส่วนต่างของคาดการณ์ราคาใน โพลีเอทิลีน (PE) และโพลีโพรพิลีน (PP) จาก $478 และ $398 ต่อตัน มาเป็น $387 และ $360 ต่อตัน ตามลำดับ

ทั้งนี้ KKPS ยังคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 42.10 ต่อหุ้น โดยมองว่าการหั่นคาดการณ์กำไรในปี 68 นั้นจะถูกชดเชยด้วยกำไรในปี 67 ที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น รวมถึงหนี้สุทธิในครึ่งแรกของปี 67 ที่ลดลงมากกว่าคาดการณ์

โดยฝ่ายวิเคราะห์ระบุว่า ในช่วงปี 65-67 นั้น PTT เผชิญกับความความวุ่นวายอย่างมาก ทั้งเรื่องของการหั่นภาษีท่อส่งก๊าซธรรมชาติ, การปรับราคา Pool Gas, การปรับภาษี LNG และ ชอร์ตฟอล ที่ส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัท ซึ่งในมุมมองของ KKPS นั้นผลกระทบจากประเด็นต่างๆนั้นผ่านไปแล้ว และราคาน้ำมันดิบที่คาดการณ์ว่าจะลดลงนั้นจะส่งผลให้ภาครัฐไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการช่วยเหลือเพื่อพยุงราคาพลังงานในไทย และจะเป็นการลดความเสี่ยงต่อ PTT ในทางอ้อม

ฝ่ายวิเคราะห์เชื่อว่าการปรับราคา Pool Gas ในท้ายที่สุดแล้วจะจบลงที่ราคาจะลดลง ซึ่งจะเปิดทางให้ PTT สามารถสร้างกำไรคืนมาได้บ้างจากที่เสียไปก่อนหน้านี้ และหน่วยธุรกิจก๊าซของ PTT จะได้รับผลประโยชน์มากที่สุดจากการปรับลดราคา Pool Gas ดังกล่าว นอกจากนั้นแล้ว อัตราการจ่ายปันผลตอบแทนที่ 5-6% ของบริษัทยังเป็นปัจจัยที่น่าดึงดูดด้วยเช่นกัน