“ทิสโก้” แนะขาย THG หั่นเป้าเหลือ 21.60 บาท เจอธุรกรรม 2 บริษัทลูกส่อพิรุธ

“บล.ทิสโก้” แนะนำ “ขาย” หุ้น THG หั่นราคาเป้าหมายลงเหลือ 21.60 บาท จากเดิม 28 บาท หลังพบธุรกรรมที่น่าสงสัยเกี่ยวกับบริษัทย่อย 2 แห่ง


บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (23 ก.ย.67) ปรับลดคำแนะนำสำหรับบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG จาก “ถือ” เป็น “ขาย” และลดมูลค่าที่เหมาะสมจาก 28 บาท เป็น 21.60 บาท หลัง THG รายงานการพบธุรกรรมที่น่าสงสัยเกี่ยวกับบริษัทย่อย 2 แห่ง คือ บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จำกัด (THB) และบริษัท ทีเอช เฮลท์ จำกัด (THH) ธุรกรรมเหล่านี้ รวมถึง : 1) เงินกู้ที่ THB และ THH ให้แก่บริษัท ราชธานีพัฒนาการ (2014) จำกัด (RTD) ซึ่งมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ ตระกูลวนาสิน (ตระกูลผู้ก่อตั้ง THG) มีการทำธุรกรรมหกครั้งตั้งแต่เดือน ธ.ค.65 ถึงปี 66 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 145 ล้านบาท

2) เงินกู้จำนวน 10 ล้านบาท ที่ THB ให้แก่ บริษัท ไทย เมดิคอล กรุ๊ป จำกัด ซึ่ง RTD เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ในปี 65 และ 3) การสั่งซื้อสินค้าโดย THH ในปี 66 จากบริษัทที่จดทะเบียนในสิงคโปร์ แต่ไม่มีการส่งมอบสินค้าให้กับบริษัทมีการทำธุรกรรมสองครั้ง รวมมูลค่าทั้งสิ้น 55 ล้านบาท ปัจจุบันยอดหนี้คงค้างทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมที่น่าสงสัยเหล่านี้มีมูลค่าประมาณ 105 ล้านบาท (ไม่รวมดอกเบี้ย)

ทั้งนี้ บริษัทได้ให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับเงินกู้ให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยชี้แจงว่าการกระทำผิดนั้นเกี่ยวข้องกับวงเงินสินเชื่อภายในที่ให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องมากกว่าความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ หลังจากได้รับการชำระคืนบางส่วนจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง THG มียอดหนี้คงค้างรวม 50 ล้านบาท สำหรับกรณีการสั่งซื้อที่ไม่ได้รับการส่งมอบ ทั้งนี้ บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกรรมที่น่าสงสัย THG ได้ถอดถอนบุคลากรที่เกี่ยวข้องออกจากตำแหน่งที่เกี่ยวข้องแล้ว ปัจจุบัน THB ดำเนินการโดยทีมผู้บริหารชุดเดียวกับ TH1

โดยหลังจากการเปิดเผยข่าว เราชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการผิดนัดชำระหนี้คงค้าง รวมถึงความเสี่ยงของการทุจริตเกี่ยวกับ อุปกรณ์ที่ซื้อมา จึงตัดจำหน่ายเงิน 105 ล้านบาท ออกจากกำไรที่คาดการณ์ในปี 67 ผ่านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้ปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสำหรับปี 67-69 ขึ้น 2-4% เพื่อรวมต้นทุนที่สูงขึ้นที่เกี่ยวข้องกับการ ปรับปรุงระบบภายในเพื่อความโปร่งใส จากการปรับต้นทุนดังกล่าว EBITDA สำหรับปี 67-69 ลดลง 8%, 4% และ 4% ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี ใช้ช่วง EV/EBITDA ล่วงหน้าที่ต่ำลงจาก -1SD เป็น -1.5SD (จาก 19 เท่า เป็น 16.7 เท่า) เพื่อรวมความเสี่ยงของธุรกรรมที่น่าสงสัย ซึ่งมีปัจจัยบวกได้แก่ 1) การชำระหนี้คืนจาก RTD และบริษัท ไทย เมดิคอล กรุ๊ป จำกัด และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จัดหาโดย บริษัท 2) การฟื้นตัวของรายได้โรงพยาบาล THB ที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และ 3) การฟื้นตัวของยอดขายที่พักอาศัย Jin Wellbeing ที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ คงคำแนะนำ “ขาย” สำหรับ THG โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 21.60 บาท

Back to top button