SEI นำเงินไอพีโอ 144 ล้าน รุกบริการ “เช่าอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์”
SEI เปิดเทรดวันแรกคึกคักพุ่ง 142% จากราคา IPO 3.10 บาท ประกาศเดินหน้า นำเงินจากการระดมทุน จำนวน 144.04 ล้านบาท เพิ่มศักยภาพและต่อยอดทางธุรกิจ สู่ผู้นำการให้บริการเครื่องมือและนวัตกรรมทางการแพทย์ครบวงจร พร้อมรุกให้บริการเช่าอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อสร้าง New S-Curve ประกาศตอกย้ำความเป็นหุ้นเมกกะเทรนด์ทางการแพทย์ Growth Stock อนาคตไกล
บริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ SEI เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค ในวันแรก เปิดการซื้อขายที่ระดับ 7.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.40 บาท หรือ 142% จากราคาเสนอขายไอพีโอที่ 3.10 บาทต่อหุ้น
นายกานต์ ปุญญเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SEI เปิดเผยว่า การเข้าซื้อขายของ SEI วันนี้ (24 กันยายน 2567) ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ทางบริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่นในศักยภาพและการเติบโตทางธุรกิจ จนสะท้อนให้ราคาหุ้นสามารถยืนเหนือที่ระดับ 7.50 บาท จากราคา IPO 3.10 บาทต่อหุ้น ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯ ในการเพิ่มศักยภาพทางการเงิน
รวมถึงการสร้างโอกาสการขับเคลื่อนทางธุรกิจสู่การยกระดับการเป็นผู้จำหน่ายและให้บริการทางด้านให้บริการเครื่องมือและนวัตกรรม ทางการแพทย์ให้ครบวงจรในทุกมิติ ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สอดรับกับวิสัยทัศน์และพันธกิจ ที่มุ่งเน้นการให้บริการและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมการดูแลด้านสุขภาพ สอดรับกับวัตถุประสงค์การระดมทุนของบริษัทฯ ที่จะนำเงินระดมทุน จำนวน 144.04 ล้านบาท (ภายหลังหักค่าใช้จ่ายในการเสนอขายหลักทรัพย์) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการสั่งซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ใช้ในการขยายธุรกิจในกลุ่มเครื่องมือทางการแพทย์สู่สาขาทางการแพทย์อื่น ๆ
อาทิ ผลิตภัณฑ์ประเภทวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ จำนวน 100 ล้านบาท ส่วนอีก 44.04 ล้านบาท นำไปใช้ในโครงการร่วมลงทุนกับบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์ ที่เกี่ยวเนื่องกันกับการดำเนินงานของบริษัทฯ รวมถึงคลินิกหรือโรงพยาบาลเฉพาะทาง เพื่อต่อยอด ในการสร้าง Synergy ใหม่ๆ ในเชิงธุรกิจ และการเพิ่มการให้บริการในส่วนการให้เช่าอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งจะช่วยต่อยอดการสร้างโอกาสการเติบโตสู่ New S-Curve ในอนาคต
“หุ้น SEI จัดว่าเป็นหุ้นเมกะเทรนด์ทางการแพทย์ที่มีดีมานด์การเติบโตของอุตสาหกรรม ทำให้มั่นใจว่าหุ้นของบริษัทฯ จะเป็นหุ้น Growth Stock ที่น่าสนใจของนักลงทุนที่ชอบลงทุนในกลุ่มเครื่องมือทางการแพทย์”
ด้านนายวรวัสส์ วัสสานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อวานการ์ด แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.เอสอีไอ เมดิคัล ว่า การเข้าเทรดของ SEI ในวันแรกได้รับการตอบรับอย่างคึกคัก สะท้อนถึงความน่าลงทุนของกลุ่มนักลงทุนที่เชื่อมั่นปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ โดยเห็นได้จากความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่นในไตรมาส 2/2567 ที่บริษัทฯ มีรายได้รวม 124.33 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2567 ที่มีรายได้ 76.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 61.83 และมีกำไรสุทธิ 15.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2567 ที่มีกำไรสุทธิ 4.38 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 256.00 ขณะที่งวด 6 เดือนแรก มีรายได้รวม 201.16 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 19.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.00 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิร้อยละ 33.03 เนื่องจากบริษัทฯขายสินค้าประเภทอุปกรณ์ทางการแพทย์ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงเพิ่มขึ้น ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าวพิสูจน์ถึงความสำเร็จ ที่สะท้อนผ่านการซื้อขายในวันนี้
“SEI เป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจเมกะเทรนด์ทางการแพทย์ ที่มีทิศทางการเติบโตตามแนวโน้มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับ การดูแลสุขภาพ อาทิ ความงาม ศูนย์แพทย์เฉพาะทาง และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุครบวงจร ซึ่งมีโอกาสขยายตัวได้สูง สอดคล้อง กับธุรกิจของ SEI ที่ให้บริการเครื่องมือและนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ครบวงจรในทุกมิติ ดังนั้นภายหลังจากระดมทุนในครั้งนี้เชื่อว่าจะสามารถต่อยอดความสำเร็จให้กับ SEI สู่การเติบโตในอนาคต”
ขณะที่ นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญบมจ. เอสอีไอ เมดิคัล เปิดเผยว่า ความสำเร็จในวันนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มั่นใจในศักยภาพความแข็งแกร่งและโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ เพราะ SEI เป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่ต่อยอดความสำเร็จทางการแพทย์ เนื่องจากบริษัทฯ เป็นผู้จำหน่ายและให้บริการทางด้านให้บริการเครื่องมือและนวัตกรรมทางการแพทย์ให้ครบวงจรในทุกมิติ
ทั้ง 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกช่วงเวลาของชีวิต ทั้งในกลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ (Endoscope) กลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วย ทารกแรกเกิด (Neonatal Care) กลุ่มสินค้าด้านความงาม (Aesthetic) กลุ่มสินค้าด้านการผ่าตัด (Surgery) และกลุ่มสินค้าอุปกรณ์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ (Laboratory) ซึ่งต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน ความต้องการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ของแต่ละประเภทกลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของผู้เข้ารับบริการ ดังนั้นยิ่งกลุ่มอุตสาหกรรมทางแพทย์เติบโตเพิ่มขึ้นเท่าไร ก็จะยิ่งหนุนให้ SEI เติบโตตามกลุ่มอุตสาหกรรม ดังนั้นจึงมั่นใจว่าจากแผนต่อยอดธุรกิจ จะผลักดันให้ SEI เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต และจะเป็นหุ้น Growth Stock ที่สร้างมูลค่าเพิ่มและผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน