ปลดภรรยา “หมอบุญ” พ้นประธานบอร์ด THG หลังพบธุรกรรมพิสดารโยง “กลุ่มวนาสิน“
THG ตั้งนายแพทย์เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ นั่งเป็นประธานกรรมการบริษัทฯแทนนางจารุวรรณ วนาสิน (ภรรยาหมอบุญ) หลังพบธุรกรรมประหลาด ส่อเค้าอาจมีการทุจริตผ่านการกู้เงินบริษัทเข้าส่วนตัว รวมถึงลงทุนโครงการแพงระยับหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ก.ย.67) จากที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จากัด (มหาชน) หรือ THG ครั้งที่ 16/2567 เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 67 ได้พิจารณาและมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายแพทย์เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริษัทแทน นางจารุวรรณ วนาสิน (ภรรยานายแพย์บุญ วนาสิน) แต่ยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 67 เป็นต้นไป
โดยก่อนหน้านี้ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ (20 ก.ย. 67) ที่ผ่านมา กรณีเกี่ยวกับการตรวจพบรายการอันควรสงสัยดังนี้ 1. เมื่อวันที่ 23 ส.ค.67 คณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทฯ ได้รับทราบข้อมูลการทำรายการอันควรสงสัยของบริษัทย่อย จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จำกัด หรือ THB ซึ่งบริษัทฯ ถือสัดส่วน 83.03% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ THB และบริษัท ที เอช เฮลท์ จำกัด หรือ THH ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นสัดส่วน 51.22% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ THH
2.การทำรายการอันควรสงสัยของบริษัทฯย่อย ประกอบไปด้วย การที่ THB และ THH ให้กู้ยืมเงินแก่ บริษัท ราชธานีพัฒนาการ (2014) จำกัด หรือ RTD ซึ่งเป็นบริษัทที่มีกลุ่มครอบครัววนาสิน เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ในเดือนธันวาคมปี 65 ถึงปี 66 จำนวนทั้งสิ้น 6 รายการ คิดเป็นยอดเงินทั้งสิ้น 145 ล้านบาท รวมถึงการที่ THB ให้กู้ยืมเงินแก่ บริษัท ไทย เมดิเคิล กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ RTD เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ในปี 66 จำนวน 1 รายการ คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 10 ล้านบาท และการที่ THH สั่งซื้อสินค้าจากบริษัท ที่จดทะเบียนตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ แต่ไม่มีการรับมอบสินค้าจริง จำนวน 2 รายการคิดเป็นเงินจำนวน 55 ล้านบาท
3.การเข้าทำรายการอันควรสงสัยตามข้อ 2 ข้างต้น เป็นการดำเนินการโดยฝ่ายบริหารบางส่วนของบริษัทย่อย ซึ่งเป็นการกระทำนอกอำนาจหน้าที่ และไม่ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบภายในที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทย่อย โดยไม่ได้ปฏิบัติตามประกาศเรื่องรายการที่เกี่ยวโยงกันของสำนักงานคณะกรรมการการกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์ฯ และไม่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการของบริษัทฯ
4. ณ ปัจจุบัน ยอดหนี้คงค้างของรายการอันควรสงสัยดังกล่าวรวมทั้งสิ้นราว 105 ล้านบาท (ไม่นับรวมดอกเบี้ย) และ 5.บริษัทฯ ได้แจ้งให้ผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ รับทราบถึงรายการอันควรสงสัยดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 13 ก.ย.67 และบริษัทฯ ขอให้ผู้สอบบัญชีให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับรายการอันควรสงสัยดังกล่าว โดยบริษัทฯ คาดว่า หากมีผลกระทบจะสามารถเปิดเผยผลกระทบทางการเงินนี้ได้ในงบการเงินรวมของไตรมาสที่สามที่กาลังจะจัดทาและเปิดเผยให้ผู้ลงทุนทราบต่อไป
6. บริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการแก้ไขเหตุการณ์ที่ตรวจพบเพื่อรักษามาตรฐานในการบริหารจัดการ ดังนี้ 1.) บริษัทฯ ได้โยกย้ายบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการทำรายการอันควรสงสัยดังกล่าวให้ออกจากตำแหน่งที่เกี่ยวข้องโดยทันที 2.)บริษัทฯ ได้ดาเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง และอยู่ระหว่างการดาเนินการทางวินัย และ/หรือทางกฎหมายต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทารายการอันควรสงสัยดังกล่าวจนถึงที่สุด เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น
3.) บริษัทฯ ได้เน้นย้ำและกำชับให้บุคคลากรของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ปฏิบัติตามกฎระเบียบภายในที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทย่อยอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต และการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบดังกล่าวจะต้องถูกดาเนินการทางวินัย และ/หรือทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด และ 4.) บริษัทฯ อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ผลกระทบซึ่งอาจเกิดขึ้นต่อฐานะทางการเงิน ผลการดำเนินงาน และความเสี่ยงโดยรวมทั้งในระยะสั้นและระยะยาวของบริษัทฯ การวิเคราะห์ดังกล่าวจะครอบคลุมทั้งด้านการเงิน การดำเนินธุรกิจ และความเสี่ยงด้านกฎหมาย เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทฯ สามารถจัดการกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจพิจารณาว่าจ้างที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกตามความเหมาะสม เพื่อให้ความช่วยเหลือในการวางแผนแก้ไขและป้องกันความเสี่ยงเพิ่มเติม
7. คณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นควรให้มีการรายงานการเกิดขึ้นของรายการอันควรสงสัยดังกล่าวให้แก่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้ถือหุ้นทราบ เพื่อให้ทุกฝ่ายมีข้อมูลที่ถูกต้องและทันเหตุการณ์ โดยบริษัทฯตระหนักถึงความสำคัญของการเปิดเผยข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน และมีความมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูความเชื่อมั่นและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต
ต่อมาในภายหลังภายหลังจากที่ THG ได้ทำการเปิดเผยข้อมูลตามหนังสือที่อ้างอึงผ่านตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 20 ก.ย.67 ที่ผ่านมานั้น บริษัทฯ ได้ประกาศให้ทราบทั่วกันในวันที่ 23 ก.ย.67ว่า อดีตประธานกรรมการบริษัทฯ หรือบุคคลอื่น ซึ่งไม่ได้ดารงตำแหน่งกรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานที่ได้รับมอบหมาย การให้ความเห็นต่อสานักข่าวของบุคคลดังกล่าวจึงไม่ใช่การดำเนินงานของบริษัทฯ
อนึ่ง เพื่อให้นักลงทุน ผู้ถือหุ้น และสำนักข่าว ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน เท่าเทียม และเป็นทางการ บริษัทฯขอให้ทุกฝ่ายติดตามข้อมูล ข่าวสาร และการประกาศต่าง ๆ ของบริษัทฯ เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นตามที่ได้ชี้แจงหนังสือที่อ้างถึง และแนวทางการแก้ไขผ่านทาง เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ และเว็บไซต์ของบริษัทฯ เท่านั้น โดย บริษัทฯ ตั้งมั่นอยู่ในธรรมาภิบาลที่ดีและการดำเนินงานด้วยความโปร่งใส
ขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ผลกระทบของเหตุการณ์ที่อาจมีต่อฐานะทางการเงิน ผลการดำเนินงาน และความเสี่ยงโดยรวมของบริษัทฯ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การวิเคราะห์ดังกล่าวจะครอบคลุมทั้งด้านการเงิน การดำเนินธุรกิจ และความเสี่ยง