BE8 รุกขยายฐาน “ออสเตรเลีย” ลุยลงทุน CarbonX สัดส่วน 70%

บอร์ด BE8 มีมติอนุมัติให้บริษัทย่อยลงทุนใน Carbon X สัดส่วน 70% หวังขยายธุรกิจไปยังประเทศออสเตรเลียและประเทศใกล้เคียง หนุนรายได้เพิ่ม


บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร ครั้งที่ 9/2567 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 มีมติอนุมัติให้ Beryl 8 Plus (Singapore) Pte Ltd ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 100 เป็นผู้ลงทุนใน Carbon X Group Pty Ltd (CarbonX) รวมทั้งสิ้นร้อยละ 70 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ CarbonX ภายหลังการจดจัดตั้ง

โดยมีมูลค่าเข้าลงทุนในหุ้นรวมทั้งสิ้นจำนวน 7 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (การลงทุนใน CarbonX) และผู้ที่จะมาเป็นผู้บริหารของ CarbonX สามราย ได้แก่ นาย Ian Calpin นาย Richard Wright และ นาย Vladimir Silak ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีทางการตลาด (MarTech) จะถือหุ้นใน CarbonX อีกรายละร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายทั้งหมด หรือรวมคิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายทั้งหมดของ CarbonX

ทั้งนี้ หุ้นที่บริษัทฯ ถือทั้งหมดจะเป็นหุ้นชนิด Class A โดยจะมีสิทธิตามที่หุ้นสามัญพึงมี ในขณะที่หุ้นที่ผู้บริหารสามรายถือจะเป็นหุ้นชนิด Class B ซึ่งในตอนเริ่มแรกจะยังไม่มีสิทธิใด ๆ รวมถึงสิทธิในการได้รับเงินปันผล และสิทธิในการส่งกรรมการตัวแทน โดยคาดการณ์ว่าการทำรายการจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนตุลาคม 2567

สำหรับ CarbonX เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ในประเทศออสเตรเลีย โดยเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี ทางการตลาด (MarTech) เป็นหลัก นอกจากเงินลงทุนในหุ้นแล้ว บริษัทฯ จะให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ CarbonX เป็นเงินกู้ในวงเงินไม่เกิน 1,800,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย

โดย ณ วันที่ CarbonX จะเริ่มดำเนินการ บริษัทฯ จะให้การสนับสนุนเงินกู้ก้อนแรกจำนวน 400,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ในการกำหนดมูลค่าวงเงินกู้ที่บริษัทฯ จะสนับสนุนเป็นการร่วมกันพิจารณาระหว่างบริษัทฯ และผู้บริหารสามราย โดยพิจารณาถึงความต้องการเงินทุนหมุนเวียนของ CarbonX เป็นสำคัญ โดยฝ่ายจัดการของบริษัทฯ เป็นผู้ประเมินความเป็นไปได้ของโครงการ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท และที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการลงทุน ในหุ้นของ CarbonX

ทั้งนี้ ลงทุนดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ เนื่องจากจะช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ไปยังประเทศออสเตรเลียและประเทศใกล้เคียง ช่วยสร้างรายได้ จากการส่งงานกลับมายังประเทศไทย (Offshoring) และสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ให้ เติบโตอย่างยั่งยืน

Back to top button