“จีน” สั่ง “แบงก์พาณิชย์” หั่นดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน เดดไลน์ 31 ต.ค.นี้ ฟื้นฟูภาคอสังหาฯ

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (30 ก.ย.67) ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยเมื่อวานนี้ 29 ก.ย. ว่า PBOC จะสั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเดิมที่ยังผ่อนไม่หมด (existing home loan) ก่อนวันที่ 31 ต.ค. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์

โดยแถลงการณ์ของ PBOC ระบุว่า ธนาคารพาณิชย์จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเดิมที่ยังผ่อนไม่หมดให้ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (LPR) ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับเงินกู้จำนอง อย่างน้อย 0.30% ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดปรับตัวลงประมาณ 0.50% โดยเฉลี่ย

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เมืองกว่างโจว ได้ประกาศยกเลิกข้อกำหนดที่เข้มงวดทั้งหมดสำหรับการซื้อบ้านเมื่อวานนี้ ขณะที่ เซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้น ประกาศว่าจะผ่อนคลายความเข้มงวดในการซื้อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ซื้อบ้านที่ไม่ใช่คนท้องถิ่นและปรับลดสัดส่วนการดาวน์บ้านขั้นต่ำสำหรับผู้ที่ซื้อบ้านหลังแรกสู่ระดับอย่างน้อย 15%

ขณะที่ คำประกาศล่าสุดของ PBOC มีขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (24 ก.ย.) จีนได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะเงินฝืด โดยมาตรการดังกล่าวรวมถึงการปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.50% สู่ระดับ 6.6%

อนึ่งมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสภาพคล่องมูลค่าประมาณ 1 ล้านล้านหยวน ให้กับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารสามารถปล่อยเงินกู้ได้มากขึ้นและซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่นำออกจำหน่ายเพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน

ทางด้าน คณะกรรมการกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร) ให้คำมั่นว่าจะบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจรายปี โดยจีนจะพยายามหยุดยั้งการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้ง จะควบคุมการเพิ่มโครงการบ้านใหม่และจะปรับปรุงโครงการที่มีอยู่เดิม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะบรรเทาภาวะอุปทานที่อยู่อาศัยล้นตลาด

สำหรับมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ PBOC ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ ลดอัตราเงินดาวน์ขั้นต่ำสำหรับการซื้อบ้านหลังที่ 2 จาก 25% เป็น 15 % และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัยค้างชำระสำหรับผู้กู้รายบุคคลลง 0.5 %

ด้าน บลูมเบิร์ก รายงานอ้างว่า PBOC คาดกาณณ์ว่าดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) จะลดลงตามมา 0.3% จากมาตรการในวันนี้

ภายหลังจากที่ 3 เมืองใหญ่ใน เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น และกว่างโจว ประกาศผ่อนคลายข้อจำกัดการซื้อบ้านในวันนี้ 30 ก.ย. พร้อมกับ PBOC อนุญาตให้รีไฟแนนซ์เงินกู้จำนองได้ ทำให้ดัชนีหุ้นอสังหาริมทรัพย์ของจีนของ Bloomberg พุ่งขึ้นถึง 14%

อย่างไรก็ตาม กว่างโจวกลายเป็นเมืองระดับ 1 แห่งแรกที่ยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมด โดยระบุว่าจะหยุดตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ซื้อบ้านและไม่จำกัดจำนวนบ้านที่เป็นเจ้าของ

ขณะที่เซี่ยงไฮ้ศูนย์กลางการเงินของจีน และเซินเจิ้นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีประกาศลดอัตราเงินดาวน์ขั้นต่ำสำหรับบ้านหลังแรกและหลังที่สองลงเหลือ 15% และ 20% ตามลำดับ พร้อมกับอนุญาตให้ซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่ชานเมืองได้มากขึ้น

ทั้งนี้ ตามประกาศของ PBOC ระบุว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ทุกแห่งต้องเผยแพร่รายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการรีไฟแนนซ์เงินกู้จำนองให้แก่ประชาชนทราบภายในวันที่ 12 ต.ค. และให้แล้วเสร็จสิ้นกระบวนการดังกล่าวภายในวันที่ 31 ต.ค.

ขณะที่มีรายงานระบุว่าเจ้าของบ้านจะสามารถเจรจาต่อรองเงื่อนไขกับผู้ให้กู้รายปัจจุบันได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งผู้ที่เคยเลือกอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองแบบคงที่สามารถเจรจาต่อรองเป็นระดับดอกเบี้ยใหม่ล่าสุด

ซูจิน เฉิน นักวิเคราะห์ Jefferies Financial Group Inc. คาดการณ์ว่ามาตรการผ่อนคลายใน เซี่ยงไฮ้ และ เซินเจิ้น ยังไม่เข้มข้นเท่าที่คาดหวัง ขณะที่ กว่างโจวกลับเกินความคาดหมายไปเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเฉินให้ความเห็นว่า นโยบายเหล่านี้อาจช่วยชะลอการลดลงของราคาอสังหาริมทรัพย์ได้ แต่คงจะยากที่จะทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น

ส่วน “พาน กงเซิ่ง” ผู้ว่าการฯ PBOC มองว่ามาตรการดังกล่าวจะลดอัตราดอกเบี้ยค้างชำระ 0.5% ซึ่งจะลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยประจำปีของประชากรราว 150 ล้านคน โดยลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยประจำปีลงประมาณ 150,000 ล้านหยวน โดยปกติแล้ว ธนาคารจะปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ในช่วงต้นปีโดยอิงจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดี 5 ปีซึ่งลดลง 0.35%

PBOC รายงานในเดือน ก.ค.ว่า ปีที่แล้ว การรีไฟแนนซ์เงินกู้จำนองช่วยลดอัตราดอกเบี้ยค้างชำระโดยเฉลี่ย 0.73% และลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยประจำปีของประชาชนไปได้ประมาณ 170,000 ล้านหยวน