“วายุภักษ์ หนึ่ง” เข้าเทรด 7 ต.ค.นี้ หลังเม็ดเงินระดมทุนจองล้น 1.5 แสนล้านบาท

“กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” ประสบความสำเร็จ นักลงทุนตอบรับจองซื้อสูงกว่ามูลค่าการเสนอขายรวม 1.5 แสนล้านบาท เตรียมนำหน่วยลงทุนเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 7 ต.ค.นี้


นายวราห์ สุจริตกุล ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เปิดเผยว่า การเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง (“กองทุนฯ”) แก่ผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นผู้ลงทุนรายย่อย และผู้ลงทุนสถาบันและนิติบุคคลเฉพาะกลุ่มประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยมีปริมาณความต้องการลงทุนกว่า 190,000 ล้านบาท สูงกว่ามูลค่าการเสนอขายรวม 150,000 ล้านบาท สะท้อนถึงความสนใจในกองทุนฯ ที่เป็นทางเลือกการลงทุนในระยะยาว ทั้งนี้ ผู้ลงทุนรายย่อย สามารถตรวจสอบผลการจัดสรรหน่วยลงทุนประเภท ก. ได้ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ www.settrade.com/ipo/VAYU1

ด้านนางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง กล่าวว่า หลังจากเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนฯ แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย คาดว่าจะเริ่มลงทุนตามนโยบายการลงทุนของกองทุนฯตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 เป็นต้นไป

โดยกองทุนฯมีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ ภายใต้การบริหารทั้งแบบเชิงรุก (Active Investment) และแบบเชิงรับ (Passive Investment) ส่วนใหญ่จะลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และจะเน้นลงทุนในหุ้นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานและสภาพคล่องที่ดี มีความมั่นคงในระยะยาว ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี อาทิ บริษัทที่อยู่ใน SET100 ที่ได้รับคะแนน SET ESG Ratings ระดับ A ขึ้นไป หรือบริษัทนอก SET100 ที่ได้รับคะแนน SET ESG Ratings ที่สูงกว่า เป็นต้น นอกจากนี้ อาจพิจารณาลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่มีอัตราผลตอบแทนดีหรือมีแนวโน้มเติบโตสูง มีสภาพคล่องและมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี

ขณะที่นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง กล่าวว่า หน่วยลงทุนประเภท ก. จะได้รับการจัดสรรเป็นรูปแบบไร้ใบหน่วย (Scripless) อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถแจ้งขอออกใบหน่วยลงทุนได้ ภายหลังจากที่บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ TSD ได้ฝากหน่วยลงทุนตามจำนวนที่ได้รับจัดสรรเข้าบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง หรือบัญชี 600 และหน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว โดยมีค่าธรรมเนียมตามที่ TSD กำหนด

ทั้งนี้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้หลังจากหน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยคาดว่าหน่วยลงทุนประเภท ก. จะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นวันแรก ในวันที่ 7 ตุลาคม 2567 อย่างไรก็ตามผู้ลงทุนที่ฝากหน่วยลงทุนไว้กับ TSD ในบัญชี 600 ต้องโอนหน่วยลงทุนเข้าบัญชีหลักทรัพย์ของตนเองก่อน จึงจะสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนดังกล่าวผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทุกวันทำการของตลาดหลักทรัพย์ฯ และสามารถโอนหน่วยลงทุนประเภท ก. ได้อย่างเสรี โดยราคาหน่วยลงทุนประเภท ก. ในตลาดรองจะเปลี่ยนแปลงไปตามกลไกของราคาตลาด และผู้ลงทุนรายย่อยที่ได้รับผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผลจากการลงทุนในหน่วยลงทุนประเภท ก. จะมีอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย ร้อยละ 10

Back to top button