KKPS ลดคำแนะนำ “ถือ” SC หั่นเป้ากำไรปี 67-68 เซ่นยอดขายบ้านหดตัว

“เกียรตินาคินภัทร” ปรับลดคำแนะนำ “ถือ” หุ้น SC แต่เพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 3.20 บาท หลังหั่นเป้ากำไรจาการดำเนินงานหลักปี 67-68 ลง คาดยอดขายบ้านปรับตัวลง


บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS ระบุในบทวิเคราะห์ ปรับลดคำแนะนำหุ้น บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC จาก ซื้อ ลงมา ถือ แต่ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 3.10 บาท เป็น 3.20 บาท พร้องกับคงระดับเป้าหมาย PER ไว้ที่ 6.5 เท่า โดยแนะนำให้นักลงทุนขายทำกำไรที่ได้จากหุ้น SC ที่ถือไว้ก่อนหลังราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นถึง 25% จากช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้อัพไซด์ต่อราคาเป้าหมายค่อนข้างจำกัด จากแนวโน้มรายได้ที่ต่ำ รวมถึงกำไรในไตรมาส 3 และ 4 ที่ไม่มีอะไรน่าตื่นตา

ฝ่ายวิเคราะห์หั่นเป้ากำไรจากการดำเนินงานหลักในปี 67-68 ลงอีก 4% และ 5% ตามลำดับจากคาดการณ์ยอดขายบ้านเช่าที่ต่ำลง หลังจากที่ยอดขายนับจากต้นปีจนถึงปัจจุบันลดลง 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนแนวโน้มการเติบโตของรายได้คาดการณ์ว่าจะชะลอตัวลงในปี 68 โดยมูลค่างานในมือ (backlog) ที่มีอยู่คิดเป็นเพียง 7% ของรายได้ในส่วนของรายได้จากบ้านพักที่อยู่อาศัยทั้งหมด

ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากำไรจากการดำเนินงานหลักในปี 67 จะลดลง 22% ก่อนจะฟื้นตัว 7% ในปี 68 จากยอดขายที่ดีขึ้น และอัตรากำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากไม่มีมาตรการหั่นราคาจากภาครัฐ

พร้อมกันนี้ ยอดจองในไตรมาส 3/67 คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท คิดเป็น 81% จากโครงการแนวราบ และ 19% จากโครงการแนวสูง ซึ่งลดลง 25% จากปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสก่อนหน้า

ขณะที่ในส่วนของยอดจองคอนโดลดลง 71% จากปีก่อน และ 19% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่จะได้ยอดจองจากโครงการแนวราบที่เพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อน และ 20% จากไตรมาสก่อนมาช่วยทดแทน ในขณะที่ยอดจองในไตรมาส 4/67 คาดการณ์ว่าจะคงที่จากปีก่อน

ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานหลักในไตรมาส 3 คาดการณ์ว่าจะลดลง 10-15% จากปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาสก่อน ขณะที่คอนโด  Reference Ekkamai (มูลค่า 3 พันล้านบาท) คาดการณ์ว่าจะเปิดตัวในไตรมาส 4 ซึ่งจะช่วยให้ยอดจองในไตรมาส 4 อยู่ที่ 7.3 พันล้านบาท คงที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นหากเทียบไตรมาสก่อน

ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่ายอดจองทั้งปี 67 จะอยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ฝ่ายบริหารตั้งไว้ 9% โดยโครงการแนวรายจะมียอดจอง 2.13 หมื่นล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่ฝ่ายบริหารตั้งไว้ 15%

โดย KKPS คาดว่า Net Gearing (อัตราส่วนทางการเงินที่ใช้วัดความเสี่ยงของกิจการจากการใช้เงินทุน) จะคงที่อยู่ในระดับสูงที่ 1.4 เท่า ทั้งในปี 67-68 จากวัฏจักรการลงทุนสำหรับธุรกิจที่มีรายได้ที่มาจากทรัพย์สิน โดย SC ทีแผนจะสร้างโกดังให้เช่าขนาด 7 แสนตารางเมตรภายในปี 72และโรงแรมจำนวน 2,000 ห้องภายในปี 72 เช่นกัน โดยคาดการณ์ว่าจะมีรายได้จากค่าเช่าคิดเป็น 5-6% ของรายได้ทั้งหมดในปี 67-69 และมี CAGR อยู่ที่ 13% ในปี 67-70 ทั้งนี้ การเพิ่มช่องทางรายได้ใหม่จากสินทรัพย์อยู่ระหว่างการพิจารณา โดยคาดการณ์ว่าน่าจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

ฝ่ายวิเคราะห์ยังระบุว่าไม่มีความกังวลในด้านการเพิ่มทุน หรือสภาพคล่อง โดยธุรกิจใหม่ๆ ของบริษัทจะใช้เวลาในการสร้างผลกำไรหลังจากขาดทุนในช่วงเปิดโครงการแรกๆ

Back to top button