“เทสลา” เปิดยอดขาย “รถอีวี” ไตรมาส 3 ทะลุ 4.6 แสนคัน หลัง “จีน” อัดฉีดเงินอุดหนุน

เทสลา ยิ้มรับยอดขายในจีนเพิ่มขึ้นครั้งแรกในไตรมาส 3/67 มีแนวโน้มที่จะส่งมอบรถยนต์ประมาณ 463,900 คันทั่วโลก ผลพวงจากรัฐบาลจีนเพิ่มเงินอุดหนุนกระตุ้นให้ประชาชนนำรถเก่ามาแลกรถไฟฟ้า


เทสลา (Tesla) บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สัญชาติอเมริกัน เปิดเผย ยอดขายในจีนของไตรมาส 3 เพิ่มสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในแบบรายไตรมาสประจำปี 67 เนื่องจากผู้ซื้อรถยนต์ในจีน ซึ่งเป็นตลาดรถ EV ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ประโยชน์จากมาตรการจูงใจของรัฐบาลจีน ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ด้วยการเพิ่มเงิดอุดหนุนให้ประชาชนนำรถเก่ามาแลกเป็นรถไฟฟ้า

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายเดือนเม.ย.67 รัฐบาล จีน ได้ประกาศเพิ่มเงินอุดหนุน 1 หมื่นหยวน (ราว 1,381 ดอลลาร์สหรัฐฯ) เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนนำรถเก่ามาแลกเป็นรถไฟฟ้าหรือรถไฮบริดจ์ซึ่งช่วยเพิ่มความต้องการรถ EV ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา  โดย “Investor’s Business Daily” รายงานผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ระบุว่า เทสลา มีแนวโน้มที่จะส่งมอบรถยนต์ประมาณ 463,900 คันทั่วโลกในไตรมาส 3/67 ซึ่งสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 66 อยู่ที่ 7%

ขณะที่ แดน เลวี่ นักวิเคราะห์จาก บาร์เคลย์ ระบุว่า ความต้องการที่แข็งแกร่งในจีนเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับเทสลาอย่างมาก ซึ่งประเมินว่า เทสลา สามารถส่งมอบรถได้ประมาณ 470,000 คันทั่วโลกในไตรมาส 3 ซึ่งช่วยชดเชยยอดขายที่ยังคงอ่อนแอในสหรัฐฯและยุโรป โดยย้อนไปเมื่อ 9 เดือนที่ผ่านมา เทสลา แถลงการณ์ อาจเพิ่มยอดขายได้ในอัตราที่ต่ำกว่าที่คาดเอาไว้ จึงทำให้เทสลาจำเป็นต้องเร่งอัตราการขายเพื่อให้สูงเกิน 1.8 ล้านคันที่ส่งมอบได้ในปี 67

ทั้งนี้ เทสลา เป็นของ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน เปิดเผย เทสลา อยู่ในระหว่าง 2 ช่วงของการเติบโต ซึ่งคาดว่าจะมีความก้าวหน้าในด้านการขับรถแบบอัตโนมัติและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หลังจาก เทสลา ประสบความสำเร็จในขั้นต้นจากรถรุ่นโมเดล 3 และโมเดล Y

Back to top button