CGSI แนะซื้อสะสม BCH เป้า 19.70 บาท ชี้กำไรไตรมาส 3 ฟื้นเด่นรับ “ไฮซีซั่น”

CGSI แนะนำซื้อสะสม BCH หลังราคาปรับตัวลดลงกว่าคู่แข่ง มองกำไรไตรมาส 3 ฟื้นเด่นรับไฮซีซั่นธุรกิจ ลุ้นติดรายชื่อโรงพยาบาลที่รัฐบาลคูเวตเลือกให้รักษาผู้ป่วยในประเทศ


ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ได้จัดการประชุมให้นักลงทุนสถาบันพบกับ ศ.ดร.เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH และทีมนักลงทุนสัมพันธ์ของ BCH ประเด็นหลักที่หารือคือเรื่องการกลับมาของผู้ป่วยจากคูเวตและอัตราค่าบริการทางการแพทย์ของผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง หรือมี Adj. RW มากกว่า 2 จากสำนักงานประกันสังคม (สปส.)

โดยแม้รัฐบาลคูเวตยังไม่สรุปรายชื่อโรงพยาบาลในไทยที่ประชาชนสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลจากรัฐได้ แต่ BCH เชื่อว่าจะมีโรงพยาบาลไทย 3 แห่งอยู่ในรายชื่อนี้ และ BCH จะเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ได้รับคัดเลือก ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์ CGSI มีความเห็นตรงกับ BCH อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีกำหนดการแน่นอนในการสรุปรายชื่อโรงพยาบาล แต่จากการสำรวจความคิดเห็นของโรงพยาบาลอื่นที่รับผู้ป่วยจากคูเวตเช่นกัน พบว่าผู้ประกอบการโรงพยาบาลคาดการณ์ว่ารัฐบาลคูเวตจะสรุปรายชื่อโรงพยาบาลก่อนสิ้นปี 67 นี้

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI คาดการณ์ว่า ในไตรมาส 3/67 BCH จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน, และเพิ่มขึ้น 52% จากไตรมาสก่อน ขณะที่คาดการณ์ว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน และ 22% จากไตรมาสก่อนเป็น 3.5 พันล้านบาท เพราะปกติแล้วไตรมาส 3 จะเป็นไฮ-ซีซั่นของโรงพยาบาลไทย และคาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จะเพิ่มขึ้นจาก 26.0% ในไตรมาส 2/67 เป็น 33.0% ในไตรมาส 3/67 แม้จะยังต่ำกว่า 33.9% ในไตรมาส 3/66 เนื่องจาก BCH น่าจะมีผู้ป่วยชาวคูเวตเข้ามาใช้บริการไม่มากเหมือนไตรมาส 3 ปีที่แล้ว

ทั้งนี้ BCH มีแผนจะบันทึกรายได้จากการรักษาผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง หรือมีค่าน้ำหนักสัมพันธ์ที่ปรับตามวันนอน (Adj RW) มากกว่า 2 ที่ 7,200 บาท/Adj RW ในไตรมาส 4/67 (สปส. กำหนดอัตราค่าบริการทางการแพทย์อยู่ที่ 12,000 บาท/Adj RW) เนื่องจากผู้บริหาร BCH มองว่า สปส.น่าจะมีงบประมาณไม่พอจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลเต็มจำนวน ฝ่ายวิเคราะห์ฯ จึงคาดการณ์ว่า BCH จะกลับรายการรายได้ประมาณ 81 ล้านบาทในไตรมาส 4/67 ซึ่งสะท้อนอยู่ในตัวเลขประมาณการแล้ว

ราคาหุ้น BCH น่าจะสะท้อนความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่สปส.อาจปรับลดค่าบริการทางการแพทย์ของผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงและการที่จำนวนผู้ป่วยจากคูเวตฟื้นตัวช้าแล้ว จึงมองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมากกว่าคู่แข่งในช่วงนี้เป็นโอกาสดีที่จะเข้าสะสมหุ้น (ราคา BCH ลบ 25% นับจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน เทียบกลุ่มการแพทย์บวก 3% นับจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน) จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายเดิม 19.70 บาท เท่ากับ P/E ที่ 26 เท่าในปี 68  หรือ +0.5SD ของค่าเฉลี่ยห้าปี

โดยเชื่อว่าราคาหุ้นอาจปรับตัวขึ้น หาก BCH มีผลกำไรแข็งแกร่งรายไตรมาสและผู้ป่วยชาวคูเวตกลับมาใช้บริการ แต่อาจมี downside risk หากมีการปรับลดค่าบริการทางการแพทย์ของผู้ป่วยประกันสังคมที่เป็นโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงในปี 67 ทั้งนี้เชื่อว่า BCH จะมี EPS เติบโตสูงกว่าคู่แข่งในปี 67-69

Back to top button