“ทองคำนิวยอร์ก” ปิดลบ 20.60 เหรียญ หลังดอลลาร์แข็งค่ากด
ทองคำนิวยอร์ก ปิดลบ 20.60 เหรียญ แตะ 2,669.70 ดอลลาร์/ออนซ์ รับปัจจัยกดดันจากแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ พร้อมนักลงทุนจับตาสถานการณ์ตะวันออกลาง
ตลาดสัญญาทองคำนิวยอร์กปิดลบในวันที่ 2 ต.ค.67 (ตามเวลาประเทศไทยช่วงเช้า 3 ต.ค.67) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด ด้านนักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐอเมริกาและสถานการณ์ตึงเครียดการสู้รบในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ บ็อบ ฮาเบอร์คอร์น นักกลยุทธ์การตลาดจาก บริษัท RJO Futures จำกัด เปิดเผย การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ส่งผลให้เกิดแรงเทขายในตลาดทองคำ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออก อาจทำให้ราคาทองพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์ หาก อิสราเอล ตัดสินใจโจมตี อิหร่าน ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอยู่เสมอ
สำหรับ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดีดตัวขึ้น 0.48% แตะที่ระดับ 101.677 เมื่อช่วงเช้าวันนี้ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 20.60 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 2,669.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะเงิน ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 17.80 เซนต์ หรือ 0.56% ปิดที่ 31.92 ดอลลาร์/ออนซ์
ด้านสัญญาพลาตินัม ส่งมอบเดือนม.ค.68 เพิ่มขึ้น 15.80 ดอลลาร์ หรือ 1.58% ปิดที่ 1,016.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และ สัญญาพัลลาเดียม ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 23.40 ดอลลาร์ หรือ 2.35% ปิดที่ 1,018.70 ดอลลาร์/ออนซ์
อย่างไรก็ดี หลังจากอิสราเอลประกาศว่าจะโจมตีอิหร่าน เพื่อเป็นการตอบโต้ที่ยิงขีปนาวุธจำนวนมากเล่นงานอิสราเอลเมื่อวันที่ 2 ต.ค.67ที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่ม Islamic Resistance ในอิรัก ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ได้ส่งโดรนโจมตีเป้าหมายหลายแห่งในอิสราเอลนั้น ส่งผลให้บรรดานักลงทุนเกาะติดสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด รวมถึงการจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED ซึ่งในวันนี้(3 ต.ค.67) จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในสหรัฐฯและในวันศุกร์ที่ 4 ต.ค.67 นี้จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.67