“กองทุน-สถาบัน” แห่เข้าถือ OKJ เพียบ! มั่นใจบริษัทมีเสถียรภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 159 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 6.70 บาท ได้รับเงินจากการเสนอขายหุ้น IPO ประมาณ 1,023.90 ล้านบาท เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ในวันที่ 4 ตุลาคม 2567 โดยมีบล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

สำหรับการเข้าระดมทุนมีวัตถุประสงค์การใช้เงินจากการเสนอขายหุ้น IPO อาทิ 1. ขยายธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งการขยายสาขาร้านโอ้กะจู๋ ร้าน Ohkajhu Wrap & Roll และ ร้าน Oh! Juice และ/หรือการขยายสาขาสำหรับธุรกิจหรือแบรนด์ใหม่ๆ การปรับปรุงสาขา และขยายช่องทางการจำหน่ายของบริษัทฯ ราว 753-759 ล้านบาท

2. ลงทุนในการก่อสร้างครัวกลางแห่งใหม่ และการพัฒนาเครื่องจักร อุปกรณ์ รวมถึงห้องล้างผัก และเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ระบบการบริหารจัดการวัตถุดิบสินค้าคงเหลือ ระบบการขนส่ง และสำนักงาน เป็นต้น ราว 190-230 ล้านบาท 3. ลงทุนและพัฒนาเครืองจักร อุปกรณ์ และระบบสาธารณูปโภคเพื่อเพิมประสิทธิภาพในการเพาะปลูก รวมถึงการสร้างสถานที่ใช้ในการตรวจสอบคุณภาพผลผลิต (In-house lab) เป็นต้น 30-35 ล้านบาท และ 4. ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ไม่เกิน 50 ล้านบาท

ทั้งนี้ หลังจากมีการจองซื้อหุ้น IPO ไปครั้งแรกระหว่างวันที่ 23-25 ก.ย.67 ที่ผ่านมา ล่าสุดบริษัทได้รายผลการเสนอขายหุ้น IPO ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งพบว่า 10 อันดับแรก มีกองทุนและสถาบันได้รับการจัดสรรหุ้นเป็นจำนวนมาก ได้แก่

1. UOB Kay Hian PTE LTD A CClient จำนวนหุ้นที่ได้รับจัดสรร 12,500,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 7.86%
2. LGT BANK AG จำนวนหุ้นที่ได้รับจัดสรร 8,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 5.03%
3. เค Mid Small Cap หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ จำนวนหุ้นที่ได้รับจัดสรร 6,817,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 29%
4. บัวหลวงหุ้นระยะยาว จำนวนหุ้นที่ได้รับจัดสรร 3,037,100 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.91%
5. สำนักงานประกันสังคม โดย บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) จำนวนหุ้นที่ได้รับจัดสรร 2,171,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.37%
6. พนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งจดทะเบียน จำนวนหุ้นที่ได้รับจัดสรร 1,940,800 คิดเป็นสัดส่วน 1.22%
7. เค Mid Small Cap หุ้นระยะยาว จำนวนหุ้นที่ได้รับจัดสรร 1,729,900 คิดเป็นสัดส่วน 1.09%
8. ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70: 30 จำนวนหุ้นที่ได้รับจัดสรร 1,705,100 คิดเป็นสัดส่วน 1.07%
9. เอไอเอ เอ็นแฮนซ์ เซท 50 จำนวนหุ้นที่ได้รับจัดสรร1,465,100 คิดเป็นสัดส่วน 0.92%
10. วัฒนา สุวจนกร ได้รับการจัดสรรจำนวน 1,315,600 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 83%