“เนทันยาฮู” ประกาศตอบโต้ “อิหร่าน” หลังอิสราเอลถูกโจมตีสาหัส
เนทันยาฮู ประกาศคำมั่น อิหร่าน ต้องชดใช้ที่ยิงขีปนาวุธโจมตี อิสราเอล ด้าน โจ ไบเดน เชื่อสามารถหลีกเลี่ยงสงครามได้
นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศให้คำมั่นว่า อิหร่าน จะต้องชดใช้ความเสียหายที่โจมตีอิสราเอลด้วยขีปนาวุธ เช่นเดียวกับ นายยูอาฟ กัลลันต์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอิสราเอล ออกมากล่าวเตือน ผู้ที่โจมตีอิสราเอลจะต้องเจอกับผลตอบแทนคืนอย่างสาสม โดยทางสหรัฐอเมริกายืนยันที่จะร่วมมือกับอิสราเอล เพื่อให้แน่ใจว่าอิหร่านจะเผชิญกับผลที่ตามมาอย่างรุนแรง หลังจากช่วงค่ำวันที่ 3 ก.ย.67 อิสราเอล โจมตีกรุงเบรุต เมืองหลวงเลบานอน อย่างหนักหน่วง
โดย เนทันยาฮู แถลงการณ์ที่กรุงเทล อาวีฟว่า “ อิหร่านจะต้องได้รับผลตอบแทนจากสิ่งที่ทำลงไป อิหร่านไม่เข้าใจความตั้งใจของเราที่ต้องการปกป้องตัวเอง พวกเขาจะเข้าใจสิ่งที่เราทำ เพราะเราจะยืนหยัดสู้ตามที่เราตั้งปณิธานเอาไว้ ใครทำเราก่อน เราก็จะตอบโต้อย่างสาสม”
ก่อนหน้านี้ อิหร่าน ยิงขีปนาวุธพิสัยไกลอย่างน้อย 180 ลูกไปยัง อิสราเอลเมื่อวันที่ 2 ก.ย.67 ที่ผ่านมา ทำให้ทางการอิสราเอลมีการแจ้งเตือนให้ประชาชนหลบภัยทั่วทั้งประเทศ ซึ่งขีปนาวุธของอิหร่านสามารถมองเห็นได้ขณะเข้าสู่อากาศยานของอิสราเอลตั้งแต่กรุง เทลอาวีฟ ไปจนถึงกรุง เยรูซาเล็ม เป็นเหตุให้ในช่วงค่ำวันที่ 3 ก.ย.67 อิสราเอล จึงปฏิบัติการทางทหารโจมตีกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน โดยเน้นเป้าหมายไปที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์
ด้าน โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ กล่าวว่า “ มันยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะหลีกเลี่ยงสงครามเต็มรูปแบบในตะวันออกกลาง ผมไม่เชื่อว่าจะมีสงครามเต็มรูปแบบ (an all-out war) และเรายังอะไรอีกมากที่จะต้องทำ”
อนึ่ง สงครามแบบเต็มรูปแบบ” หรือ “สงครามอย่างจริงจัง” หมายถึง สงครามที่มีการใช้กำลังหรือทรัพยากรทั้งหมดอย่างเต็มที่โดยไม่มีการจำกัดหรือข้อผูกพันใดๆ ซึ่งใช้ความรุนแรงหรือความเข้มข้นขั้นสูงของการสู้รบ
ขณะที่ มาซูด เชเซชเคียน ประธานาธิบดีของอิหร่าน เปิดเผย อิหร่านพร้อมที่จะตอบโต้ ทั้งการโจมตีทางทหาร การก่อการร้าย หรือการก้าวข้ามเส้นแบ่งเขตแดน และกองกำลังติดอาวุธของเราจะโจมตีอย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้ คณะผู้แทนถาวรอิหร่านประจำสหประชาชาติเตือนว่า ประเทศใดก็ตามที่ให้ความช่วยเหลืออิสราเอล จะกลายเป็นผู้ร่วมมือและกลายเป็นเป้าหมายในการโจมตีของอิหร่านอย่างแน่นอน ประเทศต่างๆ ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปพัวพันในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน และแยกตัวออกจากความขัดแย้ง
ในส่วนของสำนักงานความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป ประกาศแนะสายการบินต่างๆหลีกเลี่ยงผ่านน่านฟ้าอิหร่าน เพราะอาจเกิดการโจมตีตอบโต้อิหร่านจากทางฝั่งอิสราเอล ซึ่งส่งผลให้สายการบิน Lufthansa ของเยอรมัน ประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปอิหร่านจนถึงวันที่ 26 ต,ค.67นี้ รวมถึงระงับเที่ยวบินไปยังกรุงเทลอาวีฟจนถึงสิ้นเดือนต.ค.67 ส่วนเที่ยวบินไปยังกรุงเบรุตถูกระงับไปจนถึงสิ้นเดือนพ.ย.67 รวมถึงสายการบิน KVM ของเนเธอร์แลนด์ระงับเที่ยวบินไปเทลอาวีฟจนถึงสิ้นปี 67 ยกเว้นสายการบิน Middle East ของเลบานอน เป็นเพียงสายการบินเดียวที่ยังคงให้เที่ยวบินเข้าและออกจากท่าอากาศยานกรุงเบรุตได้