VAYU1 เทรดวันแรกเหนือจอง การันตีผลตอบแทนขั้นต่ำ 3% ลุ้น SET ปลายปีทดสอบ 1,470 จุด

VAYU1 เทรดวันแรกเหนือจอง พร้อมชูจุดเด่นผลตอบแทนนักลงทุนระยะยาว 3.0-9.0% อัตราคงที่ตลอด 10 ปี ฟาก “พิชัย ชุณหวชิร” กางแผนประชุมกรอบ “เงินเฟ้อ” เร็วๆ นี้ พร้อมลุ้น SET ปลายปี แตะ 1,470 จุด


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (7 ต.ค.67) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ได้วางแนวทางการระดมทุนผ่านหน่วยลงทุนประเภท ก. ของ “กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” หรือ VAYU1” เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนและความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนไทยและต่างประเทศ หลังจากสถานการณ์ตลาดทุนไทยในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างผันผวนและการนำหน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุนแก่ผู้ลงทุนที่สนใจ โดยเชื่อมั่นว่ากองทุนฯ จะมีส่วนส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนฯ

ทั้งนี้ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ หลังกระแสตอบรับล้นหลามจากผู้ลงทุนรายย่อยและผู้ลงทุนสถาบันในการเสนอขายหน่วยลงทุนที่ผ่านมา ชูอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ 3.0% ต่อปี และขั้นสูงไม่เกิน 9.0% ต่อปี คงที่ตลอด 10 ปี สร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาวให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน พร้อมเปิดประตูสู่โอกาสในการลงทุนให้กับประชาชน

ขณะที่ นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในนามของคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานกองทุนรวมวายุภักษ์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่กองทุนฯ เสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนรายย่อยเข้าลงทุนในตลาดทุนผ่านการลงทุนในกองทุนฯ ทำให้กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เป็นหนึ่งในกองทุนรวมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ประมาณ 5 แสนล้านบาท

อีกทั้งด้วยการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนฯ เชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการเงินที่ได้จากการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. จำนวน 1.5 แสนล้านบาท และส่งเสริมให้กองทุนฯ มีผลการดำเนินงานที่มั่นคงมากขึ้น และสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้แก่นักลงทุน

นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ได้จัดตั้งขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ได้แก่ 1.) บริหารจัดการหลักทรัพย์ที่รัฐถือครองอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในระยะยาวและมั่นคง, 2.) ลงทุนในกิจการที่มีความจำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อประเทศในเชิงเศรษฐกิจและต้องการการส่งเสริมจากภาครัฐ

3.) ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาตลาดเงินและตลาดทุนของประเทศและเพิ่มทางเลือกในการออมและการลงทุนแก่ประชาชน และในครั้งนี้ที่ได้มีการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งผู้ลงทุนรายย่อย และผู้ลงทุนสถาบันภายในประเทศ โดยสามารถระดมทุนได้ 1.5 แสนล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้

นายวราห์ สุจริตกุล ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดจำหน่ายหน่วยลงทุน กล่าวว่า ภายหลังจากเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุน และคาดว่าผู้ลงทุนจะให้การตอบรับที่ดีเช่นเดียวกับการเสนอขายหน่วยลงทุนที่ผ่านมา เนื่องจากจุดเด่นของกองทุนฯ ที่มีการกำหนดกลไกการคุ้มครองเงินลงทุนและผลตอบแทน รวมทั้งมีกลไกการบริหารความเสี่ยงของกองทุนฯ

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้ลงทุนรายย่อย และผู้ลงทุนสถาบันทุกราย สำหรับการตอบรับการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนฯ อย่างล้นหลาม ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการ และผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ที่แข็งแกร่งในระยะยาว

สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. กองทุนฯ ได้เริ่มนำไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ ภายใต้กรอบนโยบายการลงทุนของกองทุนฯ แล้ว โดยเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวแก่ผู้ถือหน่วยลงทุน

ด้าน นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้ลงทุนรายย่อย และผู้ลงทุนสถาบันทุกราย สำหรับการตอบรับการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนฯ

รวมถึง ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนร่วมทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนการดำเนินการในครั้งนี้ ด้วยฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของกองทุนฯ และการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพของบริษัทจัดการทั้งสองแห่ง กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง จะนำเงินจากการระดมทุนที่ได้จากการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ในครั้งนี้ ไปลงทุนตามวัตถุประสงค์และนโยบายที่กำหนดไว้  เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทุกวันทำการ โดยราคาหน่วยลงทุนในตลาดรองจะเป็นไปตามกลไกตลาด

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมว่า วันนี้ ผมคิดว่าความรู้สึกของนักลงทุนอาจเปลี่ยนไปบ้างจาก 6-7 เดือนที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศกำลังจับตาดูปัจจัยในประเทศ 2 ส่วน คือท่าทีนักลงทุนในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจทั่วโลกและชั่งน้ำหนักก่อนลงทุน และผมคิดว่าแถบเอเชีย คือทวีปที่นักลงทุนจับตาดูอยู่

“ส่วนปีหน้าดัชนี SET Index จะสามารถไปถึง 1,500 จุด ได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับกระบวนการทำงานของภาครัฐที่เร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งบ้านเรากำลังปรับเปลี่ยนอยู่ 2 เรื่อง คือ ทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องจักรเดิมที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพ และ ดำเนินการเชิญชวนนักลงทุนสมัยใหม่ที่เป็น New Technology เข้ามาลงทุน อย่างไรก็ตามเรื่องที่ดัชนีจะสามารถปรับตัวถึง 1,500 หรือไม่นั้นผมไม่สามารถบอกได้ แต่วันนี้นับว่าอยู่ในจุดทีใกล้เคียงแล้ว”  นายพิชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม มองว่าภาวะตลาดหุ้นไทยมีขึ้นมีลง ซึ่งตลาดหุ้นไทยไม่ได้ด้อยไปกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค ยังมีการท่องเที่ยวที่เข้ามาช่วยหนุนให้เศรษฐกิจเติบโต ปลายปีนี้มอง SET Index ที่ 1,470 จุด และเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังเติบโตได้ในระยะยาว

ขณะที่ การเติบสภาพคล่องผ่านมาตรการภาครัฐต่างๆ เข้าสู่ระบบตลาดทุนนับว่าอยู่ในจุดที่ไม่น่ากังวลแล้วใช่หรือไม่นั้น นายพิชัย กล่าว ปัจจุบันอยู่ในจุดที่รัฐบาลพอใจระดับหนึ่ง และหากพูดถึงมาตรการปรับกรอบเงินเฟ้อ ผมคิดว่าต้องเตรียมตัวไว้สำหรับขั้นตอนต่อไป โดยกล่าวได้ว่าเงินเฟ้อบ้านเรานั้นต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และน่าจะต่ำกว่ากรอบล่าง เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ต้องมีการพูดคุยกันว่าโอกาสที่เราจะเร่งเครื่องทางภาคธุรกิจและเศรษฐกิจก็อาจจะมีมากขึ้นหากมีการพิจารณากรอบเงินเฟ้อ ขณะที่การจะประชุมเพื่อพิจารณาปรับกรอบเงินเฟ้อตอนไหนนั้น ผลจะขอประกาศอีกครั้งหนึ่ง

นางชวินดา กล่าวทิ้งท้าย ถึงเรื่องความน่าสนใจของกองทุนรวม วายุภักษ์ หนึ่ง ว่าเราชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกว่าแล้วว่าการเข้าลงทุนนั้นจะมีมาตรการคุ้มครองนักลงทุน อีกทั้งหากนักลงทุนที่มีความคาดหวังถึงผลตอบแทนเกิน 9% ก็น่าจะลงทุนกับเรา แต่ถ้านักลงทุนต้องการการคุ้มครองใช้เชิงความผันผวน ซึ่งตลาดหุ้นมีความผันผวนอยู่แล้วนั้นกองทุนวายุภักษ์ก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่ง เพราะว่าเราเองมีกลไกลที่จะสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่นักลงทุนได้ 3.0-9.0%เพราะฉะนั้นหากนักลงทุนต้องการการคุ้มครองแบบนี้ก็น่าจะเป็นตัวเลือกหนึ่ง แต่หากนักลงทุนต้องการอะไรที่มากกว่านี้ก็อาจไม่ใช่ทาง ในส่วนการเลือกเวลาที่เหมาะสมที่สุดของการเลือกเข้าลงทุนนั้นเราจะมีการประเมินหุ้นรายตัว และจะมีการหาจังหวะที่น่าสนใจจึงจะเข้าไปลงทุน

Back to top button