นายกฯ หารือ 6 บริษัทชั้นนำ หนุน “ท่องเที่ยวไทย” หวังโกยรายได้ 3.4 ล้านล้านบาท

นายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร” หารือ 6 บริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศไทย ตั้งเป้ารายได้ 3.4 ล้านล้านบาท คาดมีต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยว 40 ล้านคน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ต.ค. 67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมโต๊ะกลมระหว่างรัฐบาลไทยกับคณะผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำระดับโลกเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย (Round Table Meeting) โดยมีทั้งหมด 6 บริษัทที่เข้าร่วม ได้แก่ Grab, Agoda, Expedia, IHG และ Marriott International, Trip.com Group และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI พร้อมเปิดแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว “Amazing Thailand Grand Tourism Year 2025”

โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปี 2568 รัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้น 7.5% และตั้งเป้าหมายรวมไว้ที่ 3.4 ล้านล้านบาท พร้อมคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 40 ล้านคน และเกิดการเดินทางภายในประเทศมากกว่า 205 ล้านครั้งทั่วประเทศไทย ทั้งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกและสถานที่อันน่าค้นหา (Hidden Gems) ซึ่งเป้าหมายเหล่านี้ ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลข หากแต่เป็นตัวแทนของความทุ่มเทอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลในการทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ที่มีชื่อเสียงในด้านมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ความงดงามทางธรรมชาติ และการต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น

นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า การหารือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวไทยอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการจัดตั้งภาคีเครือข่ายภาคเอกชนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ยกระดับประเทศไทยให้เป็นกลายเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก มุ่งสร้างประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวรู้สึกประทับใจทั้งระบบ ตั้งแต่การจองตั๋ว การเดินทาง ภาคบริการ อุตสาหกรรมอาหาร แหล่งท่องเที่ยว จนถึงการเข้าพัก เพื่อร่วมส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย

โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอความร่วมมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งถือว่าเป็นช่วง High Season เดือนพฤศจิกายน-มกราคม เนื่องจากรัฐบาลจะจัด Big Events จำนวนมาก ซึ่งจะเป็นโอกาสขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power ด้วย ซึ่งรัฐบาลต้องการผลักดันให้ปี 2568 เป็นปีที่ยิ่งใหญ่ในทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยวไทย โดยทุกแพลตฟอร์มได้แสดงความยินดีที่จะร่วมมือในการฟื้นฟูการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย และทำกิจกรรมร่วมกับรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักเช่นเดิม

โอกาสนี้ คณะผู้บริหารฯ ได้นำเสนอแนวทางการสนับสนุนการท่องเที่ยวผ่านการจัดตั้งภาคีเครือข่ายภาครัฐบาลและเอกชนเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Tourism Taskforce) ซึ่งจะบูรณาการทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับรัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของทุกบริษัทชั้นนำระดับโลก ที่มีทั้งประสบการณ์และความชำนาญในเทคโนโลยี การเก็บรวบรวมฐานข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ จะช่วยยกระดับภาคการท่องเที่ยวไทยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ด้านนายแอนโธนี ตัน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Grab ซึ่งเป็นผู้นำซูเปอร์แอปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า พร้อมร่วมมือกับรัฐบาลอย่างเต็มที่ และขอชื่นชมการทำงานของรัฐบาลที่สามารถดึงเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย ทั้งเสน่ห์ทางวัฒนธรรม อาหาร รวมถึงความใจดีของผู้คน ซึ่งวันนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้พูดคุยกับพันธมิตรบริษัทชั้นนำ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตมากยิ่งขึ้น และผลักดันให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญระดับโลก

นอกจากนี้ นายแอนโธนี ตัน กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในภาคเหนือของไทย โดยได้ชื่นชมการดำเนินงานของรัฐบาล เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ขณะเดียวกัน บริษัทฯ พร้อมให้การสนับสนุนและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่เช่นกัน โดยนายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณ Grab ที่บริจาคเงินจำนวน 2 ล้านบาท เพื่อช่วยฟื้นฟูและเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในประเทศไทย และขอบคุณที่ได้ทราบว่า ทางบริษัทฯ ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือในการส่งอาหารให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือด้วย

Back to top button