CGSI มองกำไร MINT ไตรมาส 3 เด่น รับไฮซีซั่นท่องเที่ยว “ยุโรป”
CGSI ประเมินผลงาน MINT ไตรมาส 3/67 เติบโตอย่างโดดเด่น รับไฮซีซั่นท่องเที่ยวในยุโรปหนุน เคาะราคาเป้าหมาย 41 บาท
ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ในไตรมาส 3/67 สถิตินักท่องเที่ยวของยุโรปยังแข็งแกร่ง จากข้อมูลของ Instituto Nacional de Estadistica ระบุว่า เดือนก.ค.และส.ค.67 สเปนมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน และ 9% จากปีก่อน ตามลำดับ ซึ่งสเปนเป็นประเทศที่ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT มีธุรกิจอยู่มากสุดในยุโรป รายได้จากโรงแรมในสเปนมีสัดส่วนราว 31% ของรายได้จากโรงแรมในยุโรปและสหรัฐในไตรมาส 2/67
ขณะที่นักท่องเที่ยวของอิตาลีเพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อน ในเดือนก.ค. 67 ซึ่งรายได้จากโรงแรมในอิตาลีมีสัดส่วนราว 22% ของรายได้จากธุรกิจโรงแรมในยุโรปและสหรัฐฯในไตรมาส 2/67 จึงมองว่าสถิตินักท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งจะส่งผลดีต่อโรงแรมของ MINT ในสเปนและอิตาลี ซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนโรงแรมในยุโรปและสหรัฐฯของบริษัท ส่วนประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 28% จากปีก่อนหน้า ในไตรมาส 3/67 จึงเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลดีต่อ MINT
ทั้งนี้ โรงแรมส่วนใหญ่ของ MINT ในยุโรปและสหรัฐฯอยู่ภายใต้กลุ่ม NH Hotel Group ซึ่ง MINT ถือหุ้น 96% ทั้งนี้ โรงแรมของ MINT ในยุโรปทำรายได้คิดเป็น 62% ของรายได้รวมจากธุรกิจโรงแรมในไตรมาส 1/67 เนื่องจากเป็นโลว์-ซีซั่น และเพิ่มเป็น 75% ในไตรมาส 2/67 ซึ่งเป็นไฮ-ซีซั่น
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI มองว่า แม้ธุรกิจอาหารของ MINT ในไตรมาส 3/67 จะยังมีผลการดำเนินงานอ่อนแอ เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศอ่อนแอ แต่คาดการณ์ว่าจะค่อยๆ ดีขึ้น หลังรัฐบาลมอบเงิน 1.45 แสนล้านบาทถึงมือผู้มีรายได้น้อย 14.5 ล้านคนในปลายเดือนก.ย.67 จึงคาดการณ์ว่า MINT จะมีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ -1% จากปีก่อน และมีอัตราการเติบโตของยอดขายรวม (TSSG) อยู่ที่ +3% เทียบกับปีก่อน ในไตรมาส 3/67
ขณะที่คาดว่า Wealth Effect ที่เพิ่มขึ้นจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นและเซนติเมนต์ที่ดีขึ้น น่าจะช่วยให้ผลประกอบการของธุรกิจอาหารกลับมาฟื้นตัวในไตรมาส 4/67 และปี 68
โรงแรมของ MINT ในยุโรปน่าจะยังมีรายได้เติบโตสูงจากสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่แข็งแกร่ง แต่ยังต้องจับตาดูอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของธุรกิจโรงแรม ซึ่งลดลงจาก 42.4% ในไตรมาส 2/66 เป็น 40.0% ในไตรมาส 2/67 เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้น จึงทำประมาณการ GPM ของธุรกิจโรงแรมอยู่ที่เพียง 38.0% ในไตรมาส 3/67 เทียบกับ 41.5% ในไตรมาส 3/66 โดยคาดการณ์ว่า MINT จะทำกำไรสุทธิ 2,488 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน แต่จะลดลง 12% จากไตรมาสก่อน ในไตรมาส 3/67
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI เชื่อว่าการที่โรงแรมในยุโรปของ MINT มีผลกำไรดีในไตรมาส 3/67 เพราะได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง น่าจะทำให้ราคาของ MINT ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากราคาหุ้นขณะนี้ยัง underperform ตลาด (MINT -3% นับจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน vs. SET +2% นับจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน)
ขณะที่คาดว่า MINT จะมีกำไรสุทธิเติบโตสูงในปี 68-69 เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวน่าจะเติบโตต่อเนื่องและดอกเบี้ยจ่ายจะลดลงจากแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดังนั้นจึงยังแนะนำ “ซื้อ” MINT แต่เลื่อนปีฐานในการประเมินมูลค่า ทำให้ราคาเป้าหมายในปัจจุบันอยู่ที่ 41 บาท เท่ากับ EV/EBITDA 9.5 เท่าในปี 69 หรือยังเท่ากับ -1SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปี อย่างไรก็ตามอาจมี downside risk หากบริษัทมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของยุโรปชะลอตัวรุนแรง