แนวโน้ม SET บวกตามตปท. รับแรงซื้อหุ้น “เทคโนโลยี” สหรัฐฟื้น
แนวโน้ม SET ปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ ได้รับแรงซื้อหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐ ให้แนวรับที่ 1,440 จุด และแนวต้าน 1,465 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ลุ้นปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นในต่างประเทศ หลังตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นได้ดีจากแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่อาจมีแรงกดดันจากตลาดหุ้นจีน จากการเทขายกำไร หลังนักลงทุนผิดหวังที่จีนไม่มีมาตรการใหม่ๆ ออกมา
ประกอบกับราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวลง หลังจากมีรายงานข่าวว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์และอิสราเอลอาจจะทำข้อตกลงหยุดยิง ทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางคลายลงช่วงสั้น ให้แนวรับที่ 1,440 จุด และแนวต้าน 1,465 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คาด SET Index ภาพรวมในช่วงนี้ยังคงแกว่งตัวในกรอบหลัก 1,440-1,470 จุด โดยวันนี้มีโอกาสแกว่ง Sideways Up เข้าหาระดับ 1,460+- จุด หนุนจากบรรยากาศการลงทุนที่พลิกมาเป็นบวกจากที่มีแรงเทขายวันก่อนหน้า ราคาน้ำมันดิบพลิกมา ปรับตัวลงแรง 5%
โดยล่าสุด Brent กลับลงมาที่ 77 เหรียญต่อบาร์เรล โดยตลาดยังคงติดตาม สถานการณ์สงครามและการตอบโต้ของอิสราเอลต่ออิหร่านอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ ยัง ไม่มีปัจจัยใหม่ที่ชัดเจน ตลาดมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน พ.ย. จาก ก่อนหน้าที่ประเมินโอกาสลดถึง 0.50% หลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาแข็งแรง
ด้าน Bond Yield ขยับลงเล็กน้อยแต่ยังอยู่ที่ระดับใกล้เคียง 4% ทั้งอายุ 2 และ 10 ปี ส่วนปัจจัยในประเทศยังมองปัจจัยหลักที่ต้องติดตามยังคงเป็นสถานการณ์น้ำท่วมว่าจะลุกลามขยายวงมายังภาคกลางหรือไม่ แต่จากข้อมูลปัจจุบันมองว่าผลกระทบจะต่ำกว่าปี 2554 มาก
โดยอิงจากปริมาณน้ำมัน และเขื่อนต่างๆ ที่ยังไม่วิกฤต รวมถึงพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจอย่างนิคมอุตสาหกรรมยังมีความไม่สูง หากปริมาณน้ำฝนในระยะถัดไปไม่ได้ซ้ำเติมสถานการณ์ เชื่อว่าภาพรวมจะเริ่มคลี่คลายในเดือนนี้และฟื้นตัวในเดือน พ.ย. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ยังคงมุมมองเชิงบวกระยะกลาง-ยาวต่อตลาดหุ้นไทย หนุนจากนโยบายกระตุ้นและแนวโน้มเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวในไตรมาส 4/67 ไปจนถึงปี 68 ขณะที่ Downside ถูกจำกัดจากเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ 1 ที่ทยอยซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องกลยุทธ์ โดยเลือกหุ้นที่คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/67 เติบโตแข็งแกร่ง ส่วนที่สะสมในช่วงก่อนหน้ายังถือลงทุนต่อเนื่องระยะกลาง-ยาว