6 โบรกประสานเสียง “ซื้อ” CPF เป้าสูงสุด 31 บาท ลุ้นกำไร Q3 แตะ 7.1 พันล้าน

6 โบรกประสานเสียงเชียร์ “ซื้อ” CPF พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 27.50-31.00 บาท ด้าน บล.ทรีนีตี้ ประเมินกำไรไตรมาส 3/67 แตะ 7.1 พันล้านบาท รับราคาสัตว์ทั้งในไทยและต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นและอยู่ในเกณฑ์ดี


หากมองย้อนไปในราคา บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF มองว่าได้รับอานิสงส์จากการที่ราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวดีขึ้นจากประเทศจีน ทั้งนี้พบว่ามี 6 นักวิเคราะห์เริ่มทยอยออกมาให้ข้อมูลกันต่อเนื่อง โดยคาดการณ์กำไรไตรมาส 3/67 จะออกมาเติบโตแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากราคาเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นมาทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงต้นทุนเนื้อสัตว์ปรับตัวลดลงมา ซึ่งโบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะแนะนำ “ซื้อ” พร้อมประเมินราคาเป้าหมายที่เหมาะสมตั้งแต่ 27.50-31.00 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด คาดการณ์กำไรไตรมาส 3/67 ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF อยู่ที่ 7,109 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 3% จากไตรมาสก่อนหน้า และฟื้นจากขาดทุนในไตรมาส 3/66 สำหรับแนวโน้มราคาสัตว์บกทั้งในไทยและต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นและอยู่ในเกณฑ์ดี

ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์อาจปรับตัวขึ้นมาบ้าง แต่ยังไม่กระทบมากนัก ส่งผลให้คาดอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3/67 ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า

ส่วนไตรมาส 4/67 คาดการณ์กำไรยังดีต่อเนื่อง แม้ว่าอาจอ่อนตัวจากไตรมาสก่อนหน้า จากปัจจัยฤดูกาล แต่คาดการณ์ว่ายังทำให้กำไรปี 67 ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรได้ โดยราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside บวกกับมีโอกาสที่จะปรับเพิ่มประมาณการ จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 28 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3/67 ของ CPF กำไรเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากราคาปศุสัตว์ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ยกเว้นประเทศจีนที่เติบโตตามดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น สำหรับต้นทุนอาหารสัตว์ข้าวโพดอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า และกากถั่วเหลืองลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าตามปัจจัยฤดูกาล

โดยคาดรับรู้ส่วนแบ่งกำไรขาดทุนจากบริษัทร่วมทุนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าจากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL และบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ที่มีการบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและบันทึกค่าใช้จ่ายจากการควบรวมกิจการ

อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายวิจัยยังคงคาดการณ์กำไรทั้งปี 67 ยังเติบโตแรงเทียบกับปีที่ผ่านมารับรู้ขาดทุน จากราคาหมูไทยเริ่มดีขึ้นจากปัญหาหมูเถื่อนลักลอบนาเข้าลดลง ส่งผลต่อราคาไก่ราคาดีขึ้นด้วยเช่นกันซึ่งเป็นสินค้าทดแทน การส่งออกธุรกิจไก่ที่ดีขึ้น, ราคาหมูเวียดนามเพิ่มขึ้นจากปัญหาโรค ASF ในสุกรปีที่ผ่านมาส่งผลต่อ supply สุกรลดลง

ขณะที่ราคาสุกรในจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นจากดีมานด์เพิ่มขึ้น สำหรับต้นทุนทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดอาหารสัตว์ยังลดลง ยังลดลงเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 29.50 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ทางฝ่ายวิจัยมีมุมมอง “Slightly positive” ต่อแนวโน้มไตรมาส 3/67 ของ CPF คาดเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี คาดการณ์กำไรปกติอยู่ที่ 6,418 ล้านบาท (พลิกจากขาดทุนเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อนหน้า คาดบันทึกมูลค่าสินทรัพย์ชีวภาพเพิ่มขึ้น 600 ล้านบาท จึงคาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,158 ล้านบาท (พลิกจากขาดทุนเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยปัจจัยหนุนจากราคาหมูไทยและเวียดนาม ปริมาณการส่งออกไก่เพิ่ม

ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง หนุน GPM เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า โดยคาดการณ์ส่วนแบ่งกำไร CTI เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า เพราะราคาหมูจีนเพิ่มขึ้นโดดเด่น

สำหรับโมเมนตัมไตรมาส 4/67 คาดลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าตามปัจจัยฤดูกาล คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 31.00 บาท เลือกเป็น Top pick กลุ่มคู่กับบริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT โดยให้ราคาเป้าหมาย 17.30 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่ากำไรสุทธิของ CPF ในไตรมาส 3/67 จะอยู่ที่ 6.78 พันล้านบาท พลิกฟื้นอย่างแข็งแกร่งจากขาดทุนสุทธิ 1.81 พันล้านบาทในไตรมาส 3/66 แม้จะลดลง 2% จากไตรมาสก่อนหน้าก็ตาม โดยทางฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานจะพุ่งสูงขึ้นถึง 341% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 1.04 หมื่นล้านบาท จากราคาเนื้อสัตว์ที่ขยับสูงขึ้น ทั้งในประเทศไทย และ ในต่างประเทศ โดยคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น 5% เป็น 1.510 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่ากำไรจะลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า เพราะราคาเนื้อสัตว์มีทั้งขึ้น และลง ในขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์แพงขึ้น มองว่าปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนผลประกอบการคือส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะจากระบบ CTI ในประเทศจีน ซึ่งราคาหมูฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

โดยคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ของ CPF จะลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า เพราะราคาหมูในจีนลดลง แต่ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในเวียดนาม และ ต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงจะช่วยหนุนให้ผลประกอบการยังคงค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมายที่ 28.50 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ถึง CPF โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 27.50 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยบวกเรื่องแนวโน้มผลประกอบการงวดไตรมาส 3/67 ที่คาดการณ์ว่ากำไรปกติยังคงเห็นการเติบได้ดีอยู่ที่ 6,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากราคาเนื้อสัตว์โดยเฉพาะสุกรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะที่ไทยและจีน ส่วนเวียดนามราคายังทรงตัวในระดับสูงได้ต่อเนื่องจากไตรมาส 2/67 อีกทั้งยังได้รับผลดีจากราคากากถั่วเหลืองที่ลดลง

สำหรับแนวโน้มในช่วงไตรมาส 4/67 อาจจะเห็นการชะลอเล็กน้อยเพราะราคาเนื้อสัตว์เริ่มอ่อนตัวลงหลังมีเทศกาลกินเจเข้ามา รวมถึงราคาสุกรที่จีนเริ่มเห็นการลดลงเข้าสู่ระดับปกติแล้วหลังจากขึ้นไปสูงกว่าในช่วงไตรมาส 3/67

ทั้งนี้ กำไรทั้งปีที่ฝ่ายนักวิเคราะห์ประเมินไว้อยู่ที่ 15,792 ล้านบาท อาจจะเป็นระดับที่ต่ำเกินไปเพราะกำไรปกติในช่วง 9 เดือน ปี 67 หากออกมาตามที่คาดการณ์จะคิดเป็นสัดส่วนกว่า 79% ของกำไรทั้งปี ทำให้อาจจะมีการปรับประมาณการในอนาคตอีกครั้ง

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ถึงทิศทางของ CPF ในไตรมาส 3/67 คาดการณ์ว่ายอดขายมีแนวโน้มเติบโตอยู่ที่ 153,019 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.40% จากไตรมาสก่อนหน้า เพิ่มขึ้น 5.90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และต้นทุนอาหารสัตว์ทยอยปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาส 3/67 คาดการณ์ว่าจะทำให้อัตรากำไรขึ้นต้น (GPM) รวมปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 15.90%

อีกทั้งคาดการณ์กำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 7,090 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.40% จากไตรมาสก่อนหน้า เพิ่มขึ้น 491.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเติบโตจากฐานที่ต่ำในไตรมาส 3/66 ที่มีสถานการณ์หมูเถื่อน โดยฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานปี 68 อยู่ที่ 29.50 บาท

Back to top button