SLM ไม่อุทธรณ์ “เพิกถอนหุ้น” ตามเกณฑ์ตลท. เดินหน้าขยายธุรกิจโตมั่นคง

SLM ตัดสินใจไม่ยื่นอุทธรณ์กรณีถูกเพิกถอนหุ้น ทำตามเกณฑ์ตลท. พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจโตมั่นคง


บริษัท เอส แอล เอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SLM แถลงการณ์ชี้แจงกรณีการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และกรณี สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)กล่าวโทษอดีตกรรมการ อดีตผู้บริหารของบริษัทและพวกในช่วงปี 59–60 โดยยืนยันค่าเสียหายจากการถูกเพิกถอนมูลค่าประมาณ 110 ล้านบาท ไม่ส่งผลกระทบต่องบการเงินของบริษัท

ด้าน SLM เปิดเผยว่า ในอดีตบริษัท ชื่อเดิมบริษัท ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CHUO ถูกขึ้นเครื่อง SP และ NC มาตั้งแต่ปี 61 เนื่องจากไม่นำส่งงบการเงินหรือนำส่งล่าช้าเกินกว่ากำหนด ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 59 ถึงไตรมาส 1 ปี 62 (ภายใต้การดำเนินธุรกิจของอดีตกรรมการและอดีตผู้บริหารของบริษัท CHUO) ซึ่งบริษัทได้ทยอยส่งงบการเงินที่ล่าช้าทั้งหมดให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ครบถ้วนแล้วเมื่อวันที่ 13 ส.ค.62 และในปี 62 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศให้บริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติม เนื่องจากงบการเงินประจำปี 60 ปรากฏส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์

อย่างไรก็ดี ภายหลังจากทีมงานบริหารชุดใหม่เข้ามา พบรายการธุรกรรมในอดีตที่มีลักษณะผิดปกติเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องพิสูจน์เงินลงทุน ตรวจสอบสถานะทางกฎหมายของรายการต่างๆ และเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาในอดีตของบริษัท แต่บริษัทยังคงไว้ซึ่งแนวทางการดำเนินธุรกิจตัวแทน/นายหน้าจำหน่ายสื่อโฆษณา และธุรกิจบริการให้คำปรึกษาด้านการโฆษณาและการตลาด และได้ต่อยอดธุรกิจเดิมสู่ธุรกิจผลิตสื่อรายการออนไลน์ เนื่องจากบริษัทเห็นถึงความสามารถในการผลิตสื่อรายการออนไลน์และการให้บริการโฆษณาช่องทางออนไลน์ที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่บริษัทได้ และสามารถทำให้บริษัทกลับมามีผลการดำเนินงานที่ดีได้ และในปี 64 จึงได้เพิ่มทุน ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นมากกว่าศูนย์ ตั้งแต่ไตรมาส 2/64

นอกจากนี้ บริษัท เมื่อวันที่ 17 ส.ค.67 บริษัทจึงยื่นหนังสือต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อชี้แจงข้อมูลว่าบริษัทสามารถดำเนินการแก้ไขเหตุเพิกถอนให้หมดไปได้แล้ว และวันที่ 2 ก.ย.64 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศให้บริษัทเข้าสู่ช่วงดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขาย (Resume Stage) มีระยะเวลา 2 ปี แต่หลักทรัพย์ของบริษัท “SLM” ยังคงถูกขึ้นเครื่องหมาย SP และ NC”

ในส่วนบริษัทได้ยื่นเอกสารประกอบการยื่นคำขอกลับมาซื้อขายต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 31 พ.ค.65 ซึ่งงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.65 บริษัทมีกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสติดต่อกัน 16.76 ล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงาน 4 ไตรมาสติดต่อกัน 16.99 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 54.18 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 17 – 18 เม.ย.66 บริษัทได้ยื่นหนังสือการยื่นคำขอเพื่อกลับมาซื้อขายต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกครั้ง โดยงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 เม.ย.65 มีกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสติดต่อกัน 22.47 ล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงาน 4 ไตรมาสติดต่อกัน 22.79 ล้านบาท มีส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 70.50 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายได้ และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ มาอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้หุ้นของบริษัทกลับมาซื้อขายได้ ซึ่งบริษัทน้อมรับผลการพิจารณาดังกล่าว ด้วยบริษัทเห็นว่าความเชื่อมั่นเป็นเรื่องสำคัญทางธุรกิจ การที่บริษัทอยู่ในสถานะ ‘เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน’ มาเป็นเวลานานอย่างที่ไม่รู้จุดสิ้นสุด อาจเป็นเหตุทำให้ความน่าเชื่อถือของบริษัทในการดำเนินธุรกิจที่สร้างขึ้นมาอาจจะต้องเสียไป  จึงตัดสินใจไม่อุทธรณ์การสั่งเพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน

ขณะที่ ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษอดีตกรรมการ อดีตผู้บริหารของบริษัท CHUO ในช่วงปี 59 – 60 และพวกรวม 9 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีร่วมกันกระทำทุจริตผ่านธุรกรรมต้องสงสัย 5 รายการ และได้ส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) บริษัทขอขอบคุณ ก.ล.ต. สำหรับการพิจารณาและดำเนินการกล่าวโทษดังกล่าวที่ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถือหุ้น และชี้แจงอย่างชัดเจนว่า การกระทำทุจริตดังกล่าวมิได้เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการและผู้บริหารชุดปัจจุบัน และการกล่าวโทษดังกล่าวเป็นการยื่นเรื่องร้องเรียนจากทีมบริหารชุดปัจจุบันของ SLM เพื่อแสดงให้เห็นถึงธรรมาภิบาลของบริษัทและเพื่อประโยชน์สูงสุดให้กับผู้ถือหุ้น และสำหรับความเสียหายมูลค่าประมาณ 110 ล้านบาท นั้น ไม่มีผลกระทบต่องบการเงินของบริษัทแต่อย่างใด

Back to top button