“กรภัทร” แนะเก็งกำไร 5 หุ้น รับอานิสงส์ “ดาต้าเซ็นเตอร์-จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ”
“กรภัทร วรเชษฐ์” มอง SET ขาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,481 จุด พร้อมแนะเก็งกำไร ETC-ADVANC-PTT-CPALL-IVL รับอานิสงส์ “ดาต้าเซ็นเตอร์-จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ”
นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (11 ต.ค. 67) แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้อยู่ในทิศทางบวก และยังคงเป็นตลาดน่าลงทุนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมจากต่างประเทศไม่ได้มีอะไรที่เป็นลบกับตลาดหุ้นเอเชีย ถึงแม้สภาพแวดล้อมเรื่องเงินเฟ้อและตลาดแรงสหรัฐมีภาพบวกตามเดิม
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า ปัจจัยแวดล้อมจากต่างประเทศอย่างเรื่องเงินเฟ้อและตลาดแรงงานสหรัฐ ถือว่าไม่ได้มีอะไรน่ากังวล รวมถึงพายุเฮอร์ริเคนมิลตันที่เข้าสหรัฐในขณะนี้ ไม่ได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยเหวี่ยงรุนแรงแต่อย่างใด โดยมองภาพของตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐที่แย่ลงเร็ว ทำให้ทางอัตราดอกเบี้ยงผลตอบแทนพันธบัตร หรือ Bond Yield ก็ยังทรงๆตัวอยู่ หลังจากเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีกเดือน พ.ย.นี้ ประเด็นนี้ถือว่าเป็นบวกต่อตลาดหลักทรัพย์
ส่วนอีกปัจจัยภายนอกคือเรื่องการประชุมทางการคลังของจีนในวันพรุ่งนี้ อาจจะไม่มีมาตรการเป็นเรื่องเป็นราว แต่อาจจะเน้นน้ำหนักเรื่องนโยบายที่ออกมามากกว่า ส่วนเรื่องเม็ดเงินน่าจะเห็นผลช่วงปลายเดือนต.ค. ขณะที่ปัจจัยภายในดีขึ้นมา เนื่องจากตั้งแต่กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง ที่เข้ามาเมื่อ 1 ต.ค.67 และเข้ามาเทรดในตลาดรอง เมื่อ 7 ต.ค.67 ถือว่ากองทุนภายุภักษ์ หนึ่ง เอาอยู่ โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มองภาพรวมผู้ถือหุ้นต่างชาติ (Foreign Ownership) ขายอยู่ที่ 200-800 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนทำให้ SET ค่อนข้างซิกแซกขึ้น ถือว่าต่างกับวันที่ 2-3 ต.ค.67 เฉพาะกระดานผู้ถือหุ้นต่างชาติ ขายอยู่ที่ 3-8 พันล้านบาทต่อวัน นับว่าขายแรงในช่วงเริ่มวายุภักษ์เข้ามา ดังนั้นเงินในประเทศรับมือได้และด้วยแรงหนุนดังกล่าวส่งให้ตลาดหุ้นไทยน่าจะเอาอยู่
ทั้งนี้ มองว่า SET Index จะดีขึ้น โดยให้แนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,481 จุด และแนวรับอยู่ที่ระดับ 1,460 จุด ซึ่งหากเบรกบริเวณ 1,471 จุด ไปได้แล้ว SET อาจจะขึ้นไปถึง 1,490 – 1,520 จุด
นอกจากนี้ มองเรื่อง MSCI Rebalance รอบเดือน พ.ย. 2567 มีโอกาสเป็นจุดเริ่มต้นของการเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย เนื่องจากมีสัญญาณ FUND FLOW ของนักลงทุนต่างชาติเข้ามา ซึ่งทางตลาดหุ้นอาเซียนอย่าง อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ ค่อนข้างแย่ลง ขณะที่ เกาหลีใต้ และ ไต้หวัน ก็แย่ลงด้วยเช่นกัน จะทำให้หุ้นไทยมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นหุ้นที่มีโอกาสถูกคำนวณเข้า MSCI น่าจะเป็น บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL (โอกาสปานกลาง) บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC (โอกาสต่ำ) ซึ่งหุ้นออกจะไม่มี พร้อมแนะนำ “เก็งกำไร” IVL อยู่ที่ 27-28 บาท และอาจไปถึงเป้าหมาย 34 บาทได้หลังช่วงครึ่งหลังเดือนต.ค.67
โดยก่อนหยุดยาว 12-14 ต.ค.67 มองหุ้นที่สามารถเก็งกำไรจนถึงสัปดาห์หน้าได้รับอานิสงค์จากการที่หุ้น DAMAC GROUP จาก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE ประกาศลงทุน DATA CENTER 1 พันดอลลาร์ในไทย ผลสะท้อนทำให้หุ้นกลุ่มโรงงานไฟฟ้า เช่น บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETC และ กลุ่มสื่อสารอย่าง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC มีความน่าสนใจ
โดยแนะนำหุ้นเด่นที่น่าสนใจได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT , บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL และ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL เพราะเป็นหุ้นโครงสร้าง ดีมานด์ฟื้นตัวและมีการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องของจีนอีกด้วย