บลูมเบิร์ก ตีข่าว “สารัชถ์” รวยมั่งคั่ง 5.33 แสนล้านบาท หลังควบรวม GULF-INTOUCH
บลูมเบิร์ก ตีข่าว “สารัชถ์ รัตนาวะดี” มหาเศรษฐีชื่อดังของไทย หลัง GULF ควบรวม INTOUCH เพิ่มความมั่งคั่งกว่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (5.33 แสนล้านบาท) ด้านบล.ฟินัสเซีย ไซรัส ชี้ กัลฟ์ ควบ อินทัช เสริมเขี้ยวเล็บ
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (11 ต.ค.67) สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า นายสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการรองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดอีกคนหนึ่งของไทย เพิ่มเติมความมั่งคั่งด้วยเงินกว่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยราว 5.33 แสนล้านบาท) หลังจากการควบรวมระหว่าง GULF กับบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH
ทั้งนี้ ความมั่งคั่งของนายสารัชถ์ พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังเพิ่มขึ้นมาแล้วราว7 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา อ้างอิงข้อมูลจาก Bloomberg Billionaires Index โดยหลังจากที่ราคาหุ้นของ Gulf Energy Development ซึ่งเป็นผู้ผลิตพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ปรับตัวขึ้นถึง 52% ส่งผลให้นายสารัชถ์ ติดหนึ่งในห้าอันดับผู้มั่งคั่งในกลุ่มบริษัท energy & power ของเอเชีย ซึ่งรวมนายมูเกช อัมบานี และ นายเกาตัม อาดานี สองนักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวอินเดีย อยู่ในกลุ่มดังกล่าวเช่นเดียวกัน
โดยก่อนหน้านี้ ปี 66 นาย สารัชถ์ ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2566 ถือหุ้น GULF-ITC รวย 1.9 แสนล้านบาท ครองแชมป์ 5 ปีติดต่อกัน โดยมีนายนิติ โอสถานุเคราะห์ ทายาทโอสถสภา รั้งอันดับ 2 และ “หมอเสริฐ” นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ อยู่ในอันดับ 3
หลังจาก GULF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 3 ต.ค.67 เกี่ยวกับการจัดให้มีผู้รับซื้อหุ้นของบริษัทฯจากผู้ถือหุ้นที่เข้าประชุมและออกเสียงลงคะแนนคัดค้านธุรกรรมการควบบริษัทระหว่าง GULF และ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH จำนวน 715,100 หุ้น คิดเป็น 0.0068% ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/67
โดยบริษัทฯ แจ้งให้ทราบว่า นายสารัชถ์ แสดงความประสงค์ที่จะเป็นผู้รับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านที่ราคา 56.50 บาท ซึ่งซึ่งเป็นราคาปิดของหุ้นของบริษัทฯ ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 2 ต.ค.67 และผู้รับซื้อหุ้นจะดำเนินการรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านในในระหว่างวันที่ 17-30 ต.ค.67 ซึ่งนายสารัชถ์ ซีอีโอของ GULF เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อันดับ 1 จำนวน 4.2 พันล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 35.81% และหากผู้คัดค้านขายหุ้นทั้งหมดตามจำนวน คิดเป็นเงินซื้อคืนประมาณ 40.4 ล้านบาทเท่านั้น
อย่างไรก็ดี หากการควบรวมระหว่าง GULF และ INTUCH เรียบร้อยเสร็จสิ้น คาดการณ์มาร์เก็ตแคป (Market Cap.) เบื้องต้นสูงกว่า 8.7 แสนล้านบาท จากปัจจุบัน GULF มี Market Cap. อยู่ที่ 6.86 แสนล้านบาท ขณะที่ INTUCH มี Market Cap. ที่ 3.15 แสนล้านบาท ซึ่งการควบรวมกันมีกำหนดเสร็จสิ้นในต้นปี 68 มีมูลค่าตลาดรวมกันประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท (หรือราว 43.1 พันล้านดอลลาร์ส)
ด้าน นางสาวจิตรา อมรธรรม นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์จาก ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า Gulf Energy ถูกมองโดยนักลงทุนบางคนว่าเป็นเหมือนเสือที่มีเขี้ยวเล็บเพิ่มขึ้นจากการควบรวมครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและศักยภาพการเติบโตที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม มุมมองเชิงบวกต่อหุ้น GULF อาจมีมากไป โดยเห็นได้จากราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงนี้
ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา GULF สามารถทำผลงานได้ดีเป็นอันดับสองในหมู่ 150 บริษัทด้านพลังงานทั่วโลก ซึ่งมีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลที่รวบรวมโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
อนึ่ง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 ต.ค.67 ที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ GULF และ INTUCH แตะระดับสูงสุดอีกครั้ง หลังจากที่นายสารัชถ์ประกาศรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่ไม่เห็นด้วยกับการรวมบริษัท เพื่อเร่งกระบวนการควบรวมกิจการ โดยหันมาซื้อหุ้นจากนักลงทุนส่วนน้อยที่อาจไม่เห็นด้วยกับการรวมทั้งสองบริษัท ซึ่งช่วยกำจัดอุปสรรคสำคัญในการควบรวมกิจการอีกด้วย